tag:blogger.com,1999:blog-50851199665671821152024-03-14T12:52:32.909+07:00ข่าวสาร-พันธมิตร-สกลนครfgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.comBlogger16125tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-65224315464589823542009-07-11T00:33:00.001+07:002009-07-11T00:33:23.705+07:00นร.สกลฯ ติดหวัด 2009 แล้ว 4 รายเข้าข่ายกว่า 100 - เผยเพิ่งกลับจากดูคอนเสิร์ตดงบังชิงจิสกลนคร - หน่วยควบคุมโรค ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร<br>และโรงพยาบาล ระดมแพทย์ พยาบาล<br>เข้าตรวจอาการนักเรียนในโรงเรียนประจำจังหวัด<br>พบมีอาการคล้ายไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 สั่งปิดโรงเรียนด่วน<br>เผยมีนักเรียนเข้าข่ายต้องเก็บตัวเฝ้าระวังกว่า 100 คน<p><br> ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่แพทย์<br>พยาบาลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร<br>เจ้าหน้าที่จากศูนย์ควบคุมโรคนำโดยแมลงที่ 73<br>พร้อมเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลสกลนคร กว่า 10 คน<br>ได้นำอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ไปที่โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล<br>ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร<p> หลังจากที่เมื่อเย็นวันที่ 2 ก.ค.52<br>ได้มีผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/7<br>นำบุตรเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสกลนคร เนื่องจากป่วยเป็นไข้หวัด<br>มีอาการน้ำมูกไหล ไอและจาม<br>ซึ่งหลังจากตรวจอย่างละเอียดจึงพบว่านักเรียนดังกล่าวเข้าข่ายติดเชื้อไข้<br>หวัดใหญ่ 2009 จากนั้นจึงได้แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ<p> พร้อมกันนี้ได้สั่งปิดอาคารเรียนที่ 1 ทั้งหมด แล้วนำนักเรียนชั้น<br>ม.3/7 มาตรวจและสอบถามถึงสาเหตุรวมทั้งการนำพาของเชื้อโรค ทำให้ทราบว่า<br>นกเรียนในชั้นดังกล่าวเดินทางไปชมคอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29<br>มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อกลับไปถึงจังหวัดสกลนครก็มีอาการดังกล่าว<p> ใน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่านักเรียนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009<br>อย่างแน่นอน จำนวน 4 ราย<br>อยู่ในการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีอาการเดียวกันอีก 7 ราย และอีก<br>120 ราย มีอาการเป็นหวัด น้ำมูกไหล ไอ จาม และมีเสมหะ<br>ซึ่งต้องอยู่ในระหว่างการดูอาการ และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล<p> นายสมชาย โสมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล บอกว่า<br>หลังจากที่ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลสกลนคร เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 2<br>กรกฎาคม 52 ว่ามีนักเรียนในโรงเรียนเข้าข่ายมีอาการป่วย<br>ซึ่งสงสัยว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลายคน<br>เนื่องจากได้มีผู้ปกครองนำนักเรียนไปพบแพทย์<br>จึงได้สั่งการให้คณะครูเฝ้าติดตามอาการนักเรียน<br>พร้อมประสานเจ้าหน้าที่แพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด<br>เข้ามาตรวจดูอาการของเด็กในวันนี้<p> ในเบื้องต้นได้ทำการตรวจสอบนักเรียนชั้น ม.3/7 ทั้งชั้นเรียน<br>ซึ่งโรงเรียนสกลราชฯ มีนักเรียนชั้น ม.3 เกือบ 700 คน เพื่อตรวจดูอาการ<br>เนื่องจากเกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื่ออย่างรวดเร็ว<p> ในเบื้องต้นทราบว่าเด็กทั้ง 4<br>คนที่เข้าข่ายติดเชื้อนั้นได้กลับมาจากกรุงเทพมหานคร<br>ภายหลังจากไปดูคอนเสริต์วงดงบังชิงกิ ดาราชื่อดังเจ้าประเทศเกาหลี<br>เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา<br>แล้วเด็กมาโรงเรียนจึงเริ่มมีอาการจากนั้นผู้ปกครองจึงพาไปพบแพทย์ดังกล่าว<br>ขณนี้ตนได้สั่งปิดเรียนทันที เพื่อให้แพทย์มาทำการตรวจสอบ<br>พร้อมกับปล่อยให้เด็กนักเรียนกลับบ้าน<br>เพื่อที่ทางโรงเรียนจะทำความสะอาดอาคารเรียน<br>ซึ่งอาคารเรียนดังกล่าวเป็นอาคารเรียนที่ 1 ซึ่งมีนักเรียนตั้งแต่ชั้น<br>ม.1-ม.3 ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่โรงเรียนได้มีการปิดเรียนยาวถึง 5 วัน<br>ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา<br>แต่อย่างไรก็ดีคาดว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้<p> สำหรับกำหนดการเดิมที่เด็กนักเรียนชั้น ม.3 เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ<br>ที่ทางจังหวัดได้จัดขึ้นในเทศกาลเข้าพรรษานั้น<br>ทางโรงเรียนได้แจ้งงดการเข้าร่วมกิจกรรมของเด็ก ม.3<br>ทั้งหมดแล้วเพื่อป้องกันไว้ อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งต่อเด็กในโรงเรียนทั้ง 4<br>พันกว่าคนแล้วว่า หากเด็กคนใดสงสัยว่าจะมีอาการให้แจ้งครู<br>หรือไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการทันที<p> ในขณะที่ น.ส.อนงค์ บังกระโทก นักสาธารณสุขชำนาญการ<br>หน.งานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า<br>จากการตรวจอาการของเด็กนักเรียนในเบื้องต้น ซึ่งมีอาการดังกล่าว<br>ให้ตั้งสมมติฐานของโรคไว้ก่อนว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009<br>ซึ่งจะต้องทำตามมารฐาน และรอการยืนยันการตรวจอีกครั้ง<p> อย่าง ไรก็ตาม<br>ขณะนี้ตนได้เดินทางไปที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอสว่างแดนดิน<br>จังหวัดสกลนคร เนื่องจากนักเรียนมีลักษณะอาการคล้ายกัน<br>และขณะนี้ทางจังหวัด ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง<br>แจ้งประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนให้ทราบอย่างเร่งด่วนfgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-20581762996803325672009-07-09T12:49:00.001+07:002009-07-09T12:49:04.833+07:00ชาวสกลฯ แห่เสี่ยงโชควันเข้าพรรษาลอตเตอรี่ขายดีสกลนคร - พุทธศาสนิกชนชาวสกลนครเข้าวัดไหว้องค์พระธาตุเชิงและหลวงพ่อองค์แสน<br>ขอพรในเทศกาลเข้าพรรษา<br>ด้านแม่ค้าขายลอตเตอรี่บอกขายดีเป็นพิเศษคนแห่เสี่ยงโชค<p> ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเทศกาลงานเข้าพรรษาที่วัดพระธาตุเชิงชุม<br>วรวิหาร จังหวัดสกลนคร<br>ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเดินทางไปกราบนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมและ<br>หลวงพ่อองค์แสน ซึ่งเป็นพระธาตุและพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง<br>ของจังหวัดสกลนคร ซึ่งมีประชาชนหลั่งไหลมานมัสการตลอดทั้งวัน<br>โดยพุทธศาสนิกชนต่างเข้าไปกราบไหว้ขอพรองค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อองค์<br>แสนอย่างไม่ขาดสาย<p> บางรายถือโอกาสทำบุญใหญ่ และทำบุญสะเดาะเคราะห์<br>บ้างก็นำเทียนพรรษา ดอกไม้ ธูปเทียนและทองคำเปลวไปปิดองค์พระ<br>บ้างก็ทำบุญสังฆทานภายในพระอุโบสถ หลังจากนั้น<br>บางรายก็เช่าวัตถุมงคลกลับไปบูชา<br>บ้างก็ขอพรหลวงพ่อให้โชคดีจึงแวะซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อเสี่ยงโชค<br>ที่มีพ่อค้าแม่ค้าข่ายอยู่รายรอบพระอุโบสถ<p> โดยแม่ค้าบอกว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลขายดีกว่าปกติเพราะคนมากันมาก<br>ถือโอกาสเสี่ยงโชคเพราะขอพรจากหลวงพ่อองค์แสนแล้ว<br>โดยเจ้าหน้าที่ประจำพระอุโบสถบอกว่า<br>คลื่นพุทธศาสนิกชนเนื่องแน่นมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาและคงจะเนืองแน่นไป<br>อีกจนถึงวันที่ 8 กรกฎาคม<br>ซึ่งทางวัดได้จัดเตรียมความพร้อมและอำนวยความสะดวกดูแลประชาชนที่มากราบไหว้<br>องค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อองค์แสนfgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-51278156147864163662009-07-09T12:38:00.001+07:002009-07-09T12:38:47.939+07:00อพวช.ร่วมทรูวิชั่นแข่งจรวดน้ำคัดตัวแทนภาคชิงแชมป์โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กรกฎาคม 2552 15:43 น.<br> สกลนคร - อพวช.จับมือทรูวิชั่น จัดแข่งจรวดน้ำชิงตัวแทนภาคอีสาน<br>เฟ้นหา 40 ทีมตัวแทนภาคเข้าชิงแชมป์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร<p> นายธนากร พละชัย<br>รองผู้อำนวยการองค์การพิพธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)<br>กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วย นายปัญญา มหาชัย<br>อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ร่วมกันเปิดแถลงข่าวที่ห้องประชุม<br>อาคาร 10 มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ว่า จากการที่<br>อพวช.ได้ริเริ่มการแข่งขันจรวดขวดน้ำ มาตั้งแต่ปี 2545<br>ปรากฏว่ามีเยาวชนและโรงเรียนทั่วประเทศทุกภาคให้ความสนใจเดินทางมาร่วมแข่ง<br>ขันจำนวนมาก<p> ดังนั้น เพื่อให้กิจกรรมนี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง<br>อพวช.และกลุ่มบริษัท ทรูวิชั่น จำกัดมหาชน<br>กำหนดจัดกิจกรรมแข่งขันจรวดขวดน้ำระดับประเทศ ครั้งที่ 8 ขึ้นอีกครั้ง<br>โดยเริ่มแข่งขันในระดับภูมิภาคเป็นอันดับแรก<br>ซึ่งในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 16-17<br>กรกฎาคม 52<p> โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนครเป็นศูนย์กลางการ<br>แข่งขัน ซึ่งเป็นปีที่ 3<br>แล้วและได้เปิดรับสมัครนักเรียนจากโรงเรียนต่างขณะนี้มีทีมตัวแทนโรงเรียน<br>แล้วกว่า 300 ทีม ซึ่งจะมีการแข่งขันและคัดเหลือ 40 ทีม<br>เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันระดับประเทศในวันที่ 23-24 ตุลาคม 2552<br>ที่สนามแข่งขัน อพวช.คลองห้า จ.ปทุมธานีfgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-33684230782629405042009-06-12T23:28:00.001+07:002009-06-12T23:28:41.744+07:00ผู้ใหญ่บ้านสกลฯ โร่แจ้งความ "เป็ดเหลิม"ส่งเสื้อแดงข่มขู่สกลนคร- ผู้ใหญ่บ้านในอำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร โร่แจ้งความ<br>หลังกลุ่มคนเสื้อแดงส่งคนไปขู่บอกให้วางตัวเป็นกลาง อ้าง "เฉลิม<br>อยู่บำรุง" สั่งผ่านนายอำเภอให้มาเตือน<p> วันนี้ (10 มิ.ย.) นายค้าย ผ่องแผ้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5<br>และนายยืนยง พิมพ์จันนา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ได้นำนางพัดสี ผ่องแผ้ว<br>อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 5 ต.บ้านเหล่า อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร<br>และนางจันวรา พิมจันนา เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เจริญศิลป์<br>เพื่อเข้าแจ้งความว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.52 เวลา 09.00 น. นายสุรัตน์<br>ไชยทา หรือครูเตี้ย พร้อมพวกอีก 5 คน ขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้<br>สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน นางพัดสี ผ่องแผ้ว<br>และได้สอบถามนางจันวรา พิมจันนา ภรรยาของนายยืนยง ผญบ.หมู่ 3<br>ว่าผู้ใหญ่บ้านยืนยงอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ ชายคนดังกล่าวได้สอบถามนางพัดสี<br>ผ่องแผ้ว ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านค้าย โดยได้สอบถามหาผู้ใหญ่บ้านค้ายเช่นกัน<br>ตนจึงบอกกับกลุ่มชายทั้ง 5 คนว่า ผู้ใหญ่บ้านได้ออกไปทำธุระกับ ส.ส.ค่ำๆ<br>ถึงจะกลับ ชาย 1 ใน 5 คน คือนายสุรัตน์ ไชยทา หรือครูเตี้ย<br>ได้สั่งบอกทั้งสองให้ไปบอกผู้ใหญ่บ้านทั้งสองคนว่าให้ผู้ใหญ่บ้านอยู่เฉยๆ<br>อย่าเอียงซ้าเอียงขวา ให้วางตัวเป็นกลาง<p> และ ยังได้กำชับว่าแม้แต่นายอำเภอ และปลัดอำเภอได้ไปสั่งมาแล้ว<br>และก่อนกลับนายสุรัตน์ ไชยทา ได้ขึ้นรถได้ตะโกนบอก<br>ภรรยาผู้ใหญ่บ้านทั้งสองอีกว่าที่บอกไปนั้นให้ทำตามด้วย เพราะ<br>ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สั่งมา<p><br> นายค้ายกล่าวต่อว่า<br>ตนจึงตกใจกลัวเพราะเนื่องจากเป็นช่วงระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม<br>ส.ส.เขต 3 สกลนคร<br>เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจึงเดินทางมาพบพนักงานสอบ<br>สวน สภ.เจริญศิลป์ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน<br>ซึ่งทางในการนั้นหากผู้แจ้งถูกทำร้ายหรือได้รับอันตรายให้สันนิษฐานไว้ก่อน<br>ว่าเกิดจากกรณีดังกล่าว<br>ในชั้นนี้ผู้แจ้งยังไม่ประสงค์แจ้งความร้องทุกข์ที่จะดำเนินคดีกับใครแต่<br>อย่างได<p> ทางด้าน พ.ต.ต.จำลอง พงษ์ศรีแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เจริญศิลป์<br>ได้รับแจ้งความและได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว<p><a href="http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000065406">http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000065406</a>fgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-90074376256153628192009-06-10T16:16:00.001+07:002009-06-10T16:16:57.514+07:00ชาวสกลฯ ตื่นกิ้งก่ายักษ์โผล่ริมน้ำหนองหารสกลนคร-ชาวบ้านที่ออกจับปลาในอ่างน้ำ หนองหาร<br>ตื่นตกใจเห็นสัตว์เลื้อยคลานประหลาดรูปร่างคล้ายกิ่งก่า<br>แต่มีขนาดใหญ่กว่าหลายเท่า เชื่อเป็นสัตว์ที่เติบโตโดยธรรมชาติ<br>เพราะชาวบ้านท้องถิ่นไม่มีใครเลี้ยงสัตว์ประหลาดประเภทนี้<p> ผู้สื่อข่าวรายงานว่า<br>ชาวประมงที่ออกจับปลาในอ่างน้ำหนองหารได้พบเห็นกิ้งก่ายักษ์เกาะติดอยู่บน<br>กิ่งต้นไทรริมน้ำหนองหาร สร้างความตื่นตกใจแก่ประชาชนที่พบเห็น<br>ซึ่งไม่เคยพบเห็นในบริเวณพื้นที่นี้มาก่อน<br>โดยสัตว์เลื้อยคลานที่เห็นมีลำตัวเหมือนกิ้งก่า<br>จึงได้ช่วยกันจับลงมาจากต้นไม้เพื่อนำไปให้ผู้คนที่บ้านดู<br>ซึ่งมีขนาดความยาวประมาณ 85 ซม. สีเขียว มี 4 ขาแต่ละขามี 5 เล็บ<br>ผิวหนังเป็นเกล็ดคละสีคล้ายกับกิ้งก่าเพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่ากันหลายเท่า<p> ผู้ที่จับกิ้งก่ายักษ์ตัวนี้มาได้ เล่าว่า<br>อาศัยจับปลาในลำน้ำหนองหารมาหลายสิบปี ไม่ปรากฏเห็นมีสัตว์ชนิดนี้มาก่อน<br>มีเพียงกิ้งก่าตัวเล็กธรรมดา<br>แต่ไม่เคยมีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้และไม่เชื่อว่าจะมีคนมาปล่อยทิ้งไว้น่าจะ<br>เติบโตขึ้นเองตามธรรมชาติมากกว่า<br>หรือว่าจะเป็นสัตว์ที่มีคนนำมาเลี้ยงแล้วเล็ดลอดออกจากกรง<p> ทั้งนี้ตนเองยังเชื่อว่าน่าจะไม่ใช่<br>เพราะว่าไม่ปรากฏเห็นผู้คนในพื้นที่เลี้ยงสัตว์ประเภทนี้<br>สัตว์กิ้งก่ายักษ์ตัวนี้มันมีความสามารถพิเศษ<br>คือปรับเปลี่ยนสีเข้ากลมกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เหมือนมากและได้อย่างรวด<br>เร็ว ภายใน 2-3 นาทีเท่านั้น<br>แต่มีส่วนประกอบต่างๆคล้ายคลึงกันกับกิ้งก่าแทบทุกอย่างแปลกแต่ว่าฟันของมัน<br>ไม่มี เดินเชื่องช้า<br>อาวุธประจำกายคือเล็บของมันที่ได้ช่วยในการป้องกันตัวเอง<p> ส่วนอาหารน่าจะกินประเภทพืชผักและผลไม้ตามธรรมชาติ<br>จากเท่าที่สังเกตดูพฤติกรรม<br>หลังจากนี้ก็คงไม่เก็บกักขังไว้ก็คงจะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติของมันต่อไปfgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-69975273200148043702009-06-10T16:04:00.001+07:002009-06-10T16:04:32.872+07:00ตร.สกลฯรวบโจ๋คาชุดนักศึกษาหนีเรียนเล่นเกม-ตีสนุ้กสกลนคร - ตำรวจเมืองสกล ออกตรวจร้านเกมและโต๊ะสนุกเกอร์<br>รวบนักเรียนคาชุดนักศึกษาที่หนีเรียนมาเล่นเกมและตีสนุ้กได้จำนวนหนึ่ง<br>ขณะที่เจ้าของร้านถูกตั้งข้อหาดำเนินคดี<p> วันนี้ (5 มิ.ย.) ว่าที่ พ.ต.ประภาส สะท้านอิทธิฤทธิ์<br>ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร<br>พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ท.เอนก แสนมหาชัย, นายณรงค์ศักดิ์ ชะเอม,<br>นายนัฐจิรัชย์ ศรีวิชัย, นายบรรพต หนุยจันทึก,<br>เจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา จังหวัดสกลนคร<br>และเจ้าหน้าที่ครู<br>อาจารย์จำนวนหนึ่งจากศูนย์ประสานงานพนักงานส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนัก<br>ศึกษาจังหวัดสกลนครได้ตรวจสอบความเรียบร้อยตามร้านเกมหน้าสถาบันราชภัฏ<br>สกลนคร และวิทยาลัยเทคนิคสกลนคร สถานศึกษาหลายแห่ง<p> จากการออกตรวจ<br>พบนักเรียนนักศึกษาสวมชุดนักเรียนนักศึกษาใช้เวลาว่างจากคาบเรียนหลบมาเล่น<br>เกมจำนวนมากและพบว่าที่ร้านนิตยาเกม หลังตลาดสดบ้านธาตุนาเวง<br>ต.ธาตุเชิงชุม มีนักเรียนนักศึกษาออกมาเล่นเกมจำนวนหนึ่ง<br>จึงเข้าตรวจสอบและให้กลับไปโรงเรียนหรือบ้าน<p> พร้อมควบคุมตัวนักศึกษาที่สวมชุดจากวิทยาลัยเทคนิคสกลนคร 2 คน คือ<br>นายเอ กับ นายบอย อายุ 16 และ 17 ปี (นามสมมติ) พร้อมแจ้ง<br>เจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.เมืองสกลนคร มาดำเนินการ<p> ต่อมา พ.ต.ต.นาม พานิชนอก สวป.เมืองสกลนคร ร.ต.ท.อุทิศ ราชัย<br>รอง.สวป.และ ดต.ทองพูน บัวเพชร มาทำการเชิญตัว นางจิราพร รวมภักดี<br>อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 3 ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร<br>เจ้าของร้านนิตยาเกม<br>มารับทราบที่ปล่อยให้เด็กเข้ามาเล่นและเป็นการกระทำผิดผ่าผื่นประกาศของ<br>จังหวัด 5 ข้อ ดำนินคดีแจ้งข้อหายุยงส่งเสริมให้เด็กกระทำความผิด<br>ตามมาตรา 26(3) พ.ร.บ.เด็กซึ่งมีโทษ จำคุก 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 3<br>หมื่นบาท ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ<p> ส่วนนักศึกษา 2<br>คนได้นำส่งมอบให้กับทางสถาบันศึกษามารับตัวไปและได้เชิญผู้ปกครองมาพบหาทางแก้ไขต่อไปfgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-80813119862054611552009-06-10T15:53:00.001+07:002009-06-10T15:53:38.867+07:00"เป็ดเหลิม" ช่วยผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทยเขต 3 หาเสียงสกลนคร - "เป็ดเหลิม" นำพลพรรคเพื่อไทย ช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่<br>3 จ.สกลนคร ปักหลักช่วยหาเสียงจนถึง 8 มิ.ย.นี้ ยกนโยบายเก่าไทยรักไทย<br>ขอคะแนนเสียงชาวสกลนคร พร้อมโจมตีการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ผิดพลาด<br>และลอกนโยบายประชานิยม<p> วันนี้ (4 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13 .00 น.ที่โรงเรียนอนุบาลเจริญศิลป์<br>อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย<br>และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร เพื่อหาเสียงช่วย<br>นางอนุรักษ์ บุญศล ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 2<br>ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนที่ว่างลง ภายหลังจาก นายพงษ์ศักดิ์ บุยศล<br>อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ถูกศาลฎีกาตัดสินให้ใบแดง<p> กกต.จึงประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ 3<br>จังหวัดสกลนคร ในวันที่ 21 มิถุนายน 2552 นี้<br>และกำหนดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 13- 14 มิถุนายนนี้เช่นกัน<br>การลงพื้นที่ครั้งนี้นายเฉลิมเดินทางมาพร้อมกับ ส.ส.ในสังกัดพรรคอีกกว่า<br>10 คน โดยทั้งหมดจะปักหลักในพื้นที่หาเสียงจนถึงวันที่ 8 มิถุนายน<br>ร่วมกันหาเสียงในพื้นที่ทั้ง 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอสว่างแดนดิน,<br>ส่องดาว, คำตะกล้า, เจริญศิลป์ และอำเภอส่องดาว<p> ส่วน บรรยากาศการเปิดเวทีหาเสียง<br>มีประชาชนเป็นจำนวนมากให้ความสนใจเข้ามาฟังการปราศรัยของ ร.ต.อ.เฉลิม<br>อยู่บำรุง ก่อนขึ้นปราศรัยของ ร.ต.อ.เฉลิม<br>ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยทยอยสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย<br>โจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาลที่ผิดพลาด<p> ต่อมา นางอนุรักษ์ บุญศล ได้ขึ้นปราศรัยชี้แจงนโยบายของพรรค<br>พร้อมชูหากเลือกพรรคเพื่อไทย เหมือนเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร<br>อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมกับมุ่งประเด็นชี้ไปที่จุด<br>อ่อนของการบริหารประเทศของรัฐบาลประชาธิปัตย์<br>รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่ส่งผู้สมัครลงชิงชัยในเขตนี้<br>ทั้งขอโอกาสจากประชาชนเพื่อทำหน้าที่ในสภาแทนที่ นายพงษ์ศักดิ์ บุญศล<br>สามีที่ถูกใบแดง<br>โดยยืนยันจะนำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เร่งเข้าไปแก้ไข<br>โดยตลอดการปราศรัยของนางอนุรักษ์ ได้รับความสนใจและเสียงปรบมือตลอดเวลา<p> ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ขึ้นเวทีปราศรัย<br>โดยได้ชี้แจงนโยบายของพรรค อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค<br>โครงการเงินกองทุนหมู่บ้าน โครงการ sml<br>และอีกหลายนโยบายที่พรรคเพื่อไทยจะทำให้กับพี่น้องประชาชน<br>รวมถึงการโจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาลประชาธิปัตย์<br>ที่ผิดพลาดทั้งเรื่องราคาน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ<br>และการไปกู้เงินจากต่างประเทศมาลงทุนส่งผลให้ประเทศไทยต้องเป็นหนี้กว่า 2<br>หมื่นล้านบาท<p> ทั้ง ได้โจมตีการลอกนโยบายประชานิยมที่อดีตนายกฯทักษิณ<br>เป็นคนต้นคิดไปใช้ในปัจจุบัน ทั้งๆ ที่สมัยประชาธิปัตย์<br>เป็นฝ่ายค้านโจมตีมาตลอด รายงานแจ้งว่า<br>ก่อนการปราศรัยของพรรคเพื่อไทยเริ่มขึ้น<br>โฆษกบนเวทีได้มีข่าวแจ้งต่อผู้มาร่วมงานว่า<br>มีเจ้าหน้าที่ของรัฐได้สกัดกั้นกลุ่มประชาชนที่ต้องการมาฟังการปราศรัยใน<br>ครั้งนี้ โดยตรวจยึดรถของประชาชนไว้ในหลายพื้นที่สร้างความไม่พอใจแก่ผู้เข้าร่วมรับ<br>ฟังคำปราศรัยเป็นอย่างมากfgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-56245731406864120212009-06-02T17:07:00.001+07:002009-06-02T17:07:29.031+07:00จังหวัดสกลฯ ระดมพลซ้อมแผนรับมือหวัดนก-หวัดใหญ่โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2552 12:35 น.<br> สกลนคร - จังหวัดสกลนครซ้อมแผนป้องกันแก้ไขปัญหาการระบาดไข้หวัดนก<br>และไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำลองเหตุการณ์สมมติ พื้นที่<br>อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร เตรียมความพร้อมของทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง<br>หากเกิดเหตุการณ์จริง สามารถที่จะปฏิบัติการได้ทันท่วงที<p> จังหวัดสกลนครระดมกำลังฝึกซ้อมแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดใหญ่<br>ของโรคไข้หวัดนก และไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยมี นายสมบัติ<br>ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร<br>เป็นประธานในการเปิดการซ้อมแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดไข้หวัดนก<br>และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009<p> ทั้งนี้ ได้จำลองเหตุการณ์สมมติพื้นที่ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร<br>เตรียมความพร้อมของทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง<br>หากเกิดเหตุการณ์จริงสามารถที่จะปฏิบัติการได้ทันท่วงที<p> โดยเหตุการณ์สมมตินี้เริ่มจากมีข่าวการตายผิดปกติของสัตว์ปีก<br>และมีคนป่วยต้องสงสัย ใน อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร<br>จังหวัดจึงได้ประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติ<br>เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเริ่มเคลื่อนไหว ตั้งแต่เจ้าหน้าที่<br>อปพร.ตั้งด่านตรวจการเข้าขออกหมู่บ้าน<br>การประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับชาวบ้านผ่านทางรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่<br>หอกระจายข่าว เสียงตามสาย การประชุมกรรมการหมู่บ้าน<br>และการรายงานสถานการณ์เข้ามายังจังหวัด<br>เพื่อให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ออกไปฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ทำลายซากสัตว์<br>กำหนดเขตปลอดเชื้อโรค<p> รวมถึงเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.<br>ลงไปดูแลผู้ป่วย นำผู้ป่วยเข้ารับการรักษา การซ้อมครั้งนี้<br>เป็นการซ้อมแผนในที่บังคับการโดยใช้ จังหวัดทหารบกค่ายกฤษสีวะรา จ.สกลนคร<br>เป็นสถานพยาบาลฉุกเฉิน เพื่อให้บุคลากร<br>ในหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไข<br>ได้ร่วมประสานการปฎิบัติอย่างใกล้ชิด สร้างความคุ้นเคย<br>เมื่อเกิดเหตุการณ์จริง จะสามารถลดความรุนแรงของภัยได้<br>อันเป็นการปฎิบัติโดยยึดแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดใหญ่ของโรค<br>ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และไข้หวัดนกจังหวัดสกลนครเป็นหลัก<p> ภายหลังเสร็จสิ้นการซ้อมแผน นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ<br>ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้เป็นประธานในการสรุปผลการซ้อมแผนโดยได้มอบ<br>แนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับระดับและระยะการระบาดขององค์การอนามัยโลก<br>โดยกำหนดบทบาทหน้าที่เป็น 8 ภารกิจหลัก ได้แก่ การประสานสั่งการ<br>การเตรียมพร้อมด้านปศุสัตว์ การเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุข<br>การสื่อสารประชาสัมพันธ์ การคมนาคม ขนส่ง เดินทางและการข้ามแดน<br>การรักษาความมั่นคงและบรรเทาทุกข์<br>ความร่วมมือพหุพาคีและความร่วมมือระหว่างประเทศ<br>และการรักษาความต่อเนื่องของบริการสาธารณะและธุรกิจ<p> อย่าง ไรก็ตาม<br>สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างไปบ้างจากที่ได้จัดทำไว้<br>หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมได้เมื่อเกิดสถานการณ์จริง<p><a href="http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000060871">http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000060871</a>fgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-51670903171509452422009-05-28T16:21:00.001+07:002009-05-28T16:21:47.598+07:00ชาวบ้านเก็บเห็ดป่าขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำสกลนคร - ชาวบ้านจังหวัดสกลนคร เข้าป่าภูพานเก็บเห็ดมาวางขายริมถนน<br>เป็นรายได้เสริมระหว่างรอผลผลิตทางการเกษตร สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ<p><br> ที่ริมถนนสายสกลนคร-กาฬสินธ์ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จังหวัดสกลนคร<br>ชาวบ้านต่างพากันนำเห็ดป่าที่เก็บมาจากป่าภูพานมาวางบนเพิงเล็กๆ<br>ที่สร้างไว้ เพื่อขายเห็ดให้กับประชาชนที่ขับรถผ่านไปผ่านมา<br>ได้แวะเลือกซื้อกลับไปปรุงเป็นอาหารรับประทาน<br>โดยเห็ดป่าที่มีวางขายก็จะมีทั้ง เห็ดระโงก เห็ดดิน เห็ดผึ้ง เป็นต้น<p> เห็ดที่ได้รับความนิยมและมีผู้ซื้อกลับไปรับประทาน<br>ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเห็ดระโงก และเห็ดดิน เนื่องจากเห็ดชนิดนี้<br>เมื่อนำไปปรุงเป็นอาหารประเภทผัด<br>และแกงเห็ดจะให้รสชาติที่ดีกว่าเห็ดชนิดอื่น<br>โดยราคาก็จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 170-200 บาท<br>ซึ่งพ่อค้า-แม่ค้าจะแบ่งเป็นกอง ในราคากอง ละ 50 บาท โดยวันหนึ่งๆ<br>พ่อค้าแม่ค้าเห็ดเหล่านี้มีรายได้จากการขายเห็ดข้างทาง วันละประมาณ<br>500-1,000 บาท เลยทีเดียว<p> นางแดง บึงสุวรรณ อายุ 46 ปี<br>หนึ่งในแม่ค้าที่นำเห็ดมาวางขายริมถนน ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า<br>ตนเองมีอาชีพทำนา ซึ่งช่วงนี้ก็ยังไม่ได้ทำอะไร<br>เนื่องจากเป็นช่วงที่รอดูแลและเก็บเกี่ยวผลผลิต<br>ก็เลยตัดสินใจร่วมกับเพื่อนบ้านคนอื่นๆ<br>พาเข้าป่าภูพานออกหาของป่ามาขายเพราะไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว<br>และช่วงนี้เนื่องจากเป็นฤดูฝนระหว่างเดือน พฤษภาคม - มิถุนายน ของทุกปี<br>ก็จะมีเห็ดป่าโผล่จากพื้นดินขึ้นมาหลากหลายชนิด จึงพากันเก็บมารับประทาน<p> อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเห็ดมีจำนวนมากจึงแบ่งมาวางขายอย่างที่เห็ด<br>โดยเห็ดที่ตนจะเก็บมารับประทานและขายนั้น<br>ตนจะเลือกเก็บเอาแต่เห็ดที่คนเฒ่าคนแก่ สอนให้เก็บมาแต่ดั้งแต่เดิม<br>อาทิเห็ดระโงก, เห็ดดิน เห็ดผึ้ง เป็นต้น ซึ่งในวันหนึ่งๆ<br>หากจะเก็บเห็ดมาขาย ก็ต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด<br>เพื่อให้ถึงป่าเห็ดก่อนสว่าง เนื่องจากหากถึงช่วงสายเห็ดก็จะบาน เหี่ยว<br>และตายก่อน ไม่สามารถนำมารับประทานหรือขายได้ และก็จะใช้เวลาประมาณ 2-3<br>ชั่วโมง จากนั้นจึงนำเห็ดที่หามาได้ แบ่งเป็นกองๆ เพื่อจำหน่าย<p> นางแดง บอกว่าจะต้องตื่นออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5<br>และบางครั้งจะต้องไปหาเห็ดที่ป่าไม้ซึ่งอยู่ไกลออกไปอีกก็ต้องตื่นตั้งแต่ตี<br>4 และกว่าจะมาถึงเพิงและวางขายได้ก็ประมาณ 11.00 น.<br>และวันหนึ่งๆก็จะขายได้ตกประมาณวันละ 500-1,000 บาท ซึ่งนางแดง<br>บอกว่าเป็นรายได้ที่ค่อนข้างดี เพราะตนเองก็ไม่ได้ลงทุนอะไร ลงทุนแต่แรง<br>และหากเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ถือว่ายังขายได้เป็นปกติ<br>ไม่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะราคาขายก็ยังคงเท่าเดิม<br>และลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นหน้าเก่าที่นิยมบริโภคเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว<br>โดยรายได้เหล่านี้ก็จะถูกนำไปเป็นค้ากับข้าวและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน<br>ในยามที่ครอบครัวรอฤดูกาลเพาะปลูกใหม่fgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-53808545528490070702009-05-28T01:23:00.001+07:002009-05-28T01:23:40.733+07:00ผู้ว่าฯ สกลลั่นเร่งแก้ปัญหาความยากจนทั้งเพิ่มผลผลิตเกษตร-หนุนอาชีพเสริมสกลนคร - ผู้ว่าฯ<br>เมืองสกลชี้ปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งแก้คือปัญหาความยากจน<br>โดยจะมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น<br>ขณะเดียวกันจะเร่งขจัดปัญหาสังคมโดยเฉพาะปัญหายาเสพติด เด็กติดเกม<br>และแหล่งอโคจรยามค่ำคืน<p><br> นายสมบัติ ตรีวัฒสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร<br>เปิดเผยถึงปัญหาในจังหวัดสกลนคร ที่ทางจังหวัดจะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน<br>มีทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำ ปัญหายาเสพติด ปัญหาสังคมคือ เด็กติดเกม<br>ดื่มสุรา และปัญหาความยากจน เป็นต้น แต่ที่เป็นปัญหาหลักของจังหวัดสกลนคร<br>คือ ปัญหาความยากจน โดยปัญหาความยากจนนี้ทางจังหวัด<br>มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพหลัก และอาชีพเสริม<p> โดยเฉพาะประชาชนจังหวัดสกลนคร ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร<br>หากดินในไร่นามีคุณภาพดี ก็จะช่วยให้เกิดผลผลิตที่ดีด้วย<br>ด้วยเหตุนี้จึงเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาด้วยการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออก<br>ตรวจสภาพดินให้กับประชาชนทุกราย<br>ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และแนะนำวิธีทางการเกษตรอย่างถูกต้อง<br>พร้อมกับส่งเสริมอาชีพรองคือ การผลิตสินค้า โอ-ท็อป ภายในอำเภอพรรณนานิคม<p> ทั้งนี้จะจัดฝึกหัดให้ประชาชนมีความคิดที่สร้างสรรค์<br>มีความประณีตในการออกแบบของผลิตภัณฑ์ เพื่อหารายได้เสริมในช่วงที่ว่างงาน<br>นอกจากนั้นยังต้องเร่งมือแก้ไขปัญหาสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด<br>ร้านเกม ร้านเหล้า หอพัก และสถานที่บันเทิง<p> สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้นจะส่งเสริมให้ประชาชนหันมาเล่น<br>กีฬา จัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน<br>ส่วนร้านเหล้าจะต้องมีใบอนุญาต<br>เจ้าของร้านต้องตรวจบัตรอย่างเข้มงวดห้ามให้นักเรียนอายุต่ำกว่า 18 ปี<br>หรือใส่ชุดนักเรียน นักศึกษาเข้าซื้อเด็ดขาด<br>ถ้าเจ้าของร้านไม่ทำตามกฎกติกาก็จะเชิญเจ้าของร้านมาพบและจะตั้งด่านตรวจจับ<br>ตลอดเวลา<p> ปัญหาร้านเกมในจังหวัดสกลนคร มีทั้งหมดกว่า 500 แห่งในทุกๆอำเภอ<br>ก็จะเร่งให้ทางโรงเรียนออกบัตรนักเรียน<br>เพื่อให้ร้านเกมตรวจสอบและจัดตั้งระบบออนไลน์ไม่ให้เล่นเกิน 3 ชั่วโมง/คน<br>และห้ามให้เด็กเล่นเกมในเวลาเรียน<p> ขณะที่ปัญหาหอพักในจังหวัดสกลนครมีหอพักมากกว่า 700 แห่ง<br>ส่วนหอพักจะต้องแยกหญิง-ชาย แต่ถ้าพบตึกหญิง-ตึกชายอยู่ด้วยกัน<br>จะยึดใบอนุญาตและดำเนินการตามกฎหมายทันทีfgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-60017223347215251082009-05-13T17:39:00.001+07:002009-05-13T17:39:55.272+07:00โรงรับจำนำเมืองสกลคึกแห่จำนำหาเงินใช้เปิดเทอมสกลนคร - โรงรับจำนำสกลนครคึกคัก ประชาชนแห่นำของมีค่ามาจำนำ<br>นำเงินไปใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม โดยมีเงินจ่ายออกไม่ต่ำกว่าวันละ 2 ล้านบาท<p> ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในสถานธนานุบาล<br>หรือโรงรับจำนำของเทศบาลเมืองสกลนคร<br>ก่อนช่วงการเปิดภาคเรียนว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก<br>มีบรรดาผู้ปกครองแห่นำของมีค่ามาจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายซื้อชุดนักเรียน<br>อุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลานในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนที่สถานการศึกษาต่างๆ<br>ในพื้นที่จังหวัดสกลนครจะเปิดภาคเรียนในวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 นี้<br>โดยสิ่งของมีค่าส่วนใหญ่ที่ประชาชนนำมาจำนำ มากที่สุด คือ ทองคำรูปพรรณ<br>เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นทีวี เครื่องเสียงต่างๆ เครื่องประดับที่มีค่า เช่น<br>นาฬิกาโรเล็กซ์ อุปกรณ์ทางการเกษตร เครื่องมือทางการช่าง เป็นต้น<br>โดยในช่วงนี้จะมีบรรดาผู้ปกครองเข้าไปใช้บริการภายในสถานธนานุบาลของเทศบาลฯ<br>ไม่ต่ำกว่าวันละ 200 คน และมีเงินที่จ่ายออกไปในแต่ละวัน ไม่ต่ำกว่า 2<br>ล้านบาท<p> ด้าน นายประเสริฐ แน่นหนา ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองสกลนคร<br>กล่าวว่า สำหรับมาตรการในการเตรียมเงินเพื่อรองรับประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการยัง<br>สถานธนานุบาลของเทศบาลในช่วงนี้ก่อนเปิดภาคเรียน<br>ซึ่งคาดว่าประชาชนโดยเฉพาะบรรดาผู้ปกครองจะเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก<br>และจะนำทรัพย์สินเข้ามาจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้า<br>ชุดนักเรียนให้แก่บุตรหลาน<p> ดัง นั้น<br>เพื่อเป็นการช่วยเหลือและรองรับความต้องการของประชาชนทางเทศบาลได้เตรียม<br>เงินสำรองให้กับสถานธนานุบาล เป็นจำนวนเงินกว่า 50 ล้านบาท<br>เพื่อรองรับกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการใช้จ่ายเงินในช่วงนี้<br>ซี่งตนมั่นใจว่าเงินสำรองกว่า 50 ล้านบาทที่ทางเทศบาลได้เตรียมไว้นั้น<br>น่าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสกลนครfgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-86040926277787238432009-05-11T23:01:00.001+07:002009-05-11T23:01:56.652+07:00ชาวนาสกลฯ เอาฤกษ์วันพืชมงคลทำนาสกลนคร - ชาวนาเมืองสกล ถือเอาฤกษ์ทำนาในวันพืชมงคล มีทั้งไถนาเตรียมดิน<br>เพื่อความเป็นสิริมงคล และหวังได้ผลผลิตเป็นกอบเป็นกำ<br>จำหน่ายได้ราคาดีมีกำไร<p> ที่บ้านโคกคอน ตำบลโคกสี อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร<br>ชาวนาถือเอาฤกษ์ไถนาในวันพืชมงคล เนื่องจากวันพืชมงคล หรือวันแรกนาขวัญ<br>ซึ่งมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตชาวไทยที่เป็นสังคมเกษตรกรรม<br>ได้ถือเอาฤกษ์วันนี้ลงมือทำนา มีทั้งไถนาและหว่านข้าว ทั้งนี้<br>ที่นอกจากจะยึดถือตามประเพณีเดิม<p> ทั้งนี้ เพื่อบูชาพระแม่โพสพ<br>ผู้ทำหน้าที่ปกปักรักษาข้าวในนาให้มีความอุดมสมบูรณ์<br>ตามความเชื่อที่สืบสานมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว<br>ยังหวังให้ต้นข้าวเจริญงอกงาม ได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย เป็นกอบเป็นกำ<br>และจำหน่ายได้ราคาดีมีกำไรอีกด้วย<p> ขณะเดียวกัน ที่หลังจากพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ<br>(วันไถหว่าน) ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกรุงเทพมหานครเสร็จสิ้นแล้ว<br>หลายหมู่บ้านที่ จ.สกลนคร ก็จะได้ประกอบพิธีทำบุญหมู่บ้าน<br>เพื่อความสิริมงคล มีการเสี่ยงทายฟ้าฝน และจัดงานบุญบั้งไฟ<br>เพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพญาแถนฟ้าเทวดาแห่งฝน และอนุรักษ์<br>ขนบธรรมเนียม ประเพณีไทยที่มีมาแต่โบราณ<br>ก่อนที่จะลงมือทำนาในฤดูเพาะปลูกข้าวนาปี<p>ที่มา <a href="http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000052271">http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000052271</a>fgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-61139150429444712592009-05-08T16:10:00.001+07:002009-05-08T16:10:05.622+07:00ชาวสกลฯ จุดเทียนชัยถวายพระพรในหลวง-พระราชินีสกลนคร-พสกนิกรชาวสกลนครพร้อมใจจุด เทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล<br>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ<br>เนื่องในวันฉัตรมงคล<p> เมื่อเวลา 19.19 น.คืนที่ผ่านมา (5 พ.ค.)<br>ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสกลนคร (หลังเก่า) นายพิทยา สุนทรวิภาต<br>รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้นำหัวหน้าส่วนราชการทุกหมู่เหล่า ทหาร<br>ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า<br>ประชาชนชาวจังหวัดสกลนคร ร่วมกันประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะ<br>และจุดเทียนชัยถวายพระพร<br>เพื่อแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<br>และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันฉัตรมงคล 5 พฤษภาคม<br>2552<p> จากนั้นนายพิทยา สุนทรวิภาต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร<br>ได้จุดเทียนชัยส่งต่อให้กับพสกนิกรเพื่อร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล<br>ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ<br>ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย<p> พร้อมกันนั้นได้ร่วมกันกล่าวคำถวายราชสดุดีต่อเบื้องพระบรมฉายา<br>ลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ<br>และประกาศจะร่วมใจกันสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมืองเพื่อให้เกิดความสงบสุข<br>จากนั้นได้ร่วมกันเปล่งเสียงไชโย และทรงพระเจริญพร้อมกัน<p><br>ที่มา <a href="http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050484">http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050484</a>fgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-8516089151668518492009-05-08T16:00:00.001+07:002009-05-08T16:00:11.745+07:00"อ.พังโคน" จัดงานบุญบั้งไฟสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสกลนคร - อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ<br>สืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดแต่บรรพบุรุษ<br>เผยความเชื่อท้องถิ่นหากหมู่บ้านใดไม่จัดงานบั้งไฟ อาจเกิด ภัยพิบัติ<br>ในชุมชน<p> วันนี้ (5 พ.ค.) ที่อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ได้จัดงานประเพณี<br>บุญบั้งไฟขึ้น โดยสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร<br>เป็นประธานเปิดงาน<p> นายสุรพล นิติกิจไพบูลย์<br>นายกเทศมนตรีตำบลพังโคนได้กล่าวรายงานถึงความเป็นมา<br>และวัตถุประสงค์ของการจัดงาน การจัดงานบุญบั้งไฟตำบลพังโคนว่าทาง<br>ประชาชนอำเภอพังโคน ทั้ง 5 ตำบล<br>ได้ตกแต่งบั้งไฟและขบวนแห่เข้าประกวดแข่งขันกันอย่างคึกคัก<br>ซึ่งแต่ละขบวนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ย้อนยุค อย่างสวยงาม<br>ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน<br>ท่ามกลางความสนใจของผู้ชมซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ<br>แต่ละขบวนประดับประดาบั้งไฟกันอย่างสุดฝีมือ<p> พร้อมทั้งมีผู้แต่งกายเป็นท้าวผาแดง และ นางไอ่คำนั่ง<br>ประจำขบวนแห่บั้งไฟทุกขบวนสวยงามไปอีกรูปแบบหนึ่ง<br>เมื่อขบวนการแสดงฟ้อนรำประกอบดนตรีพื้นเมืองของท้องถิ่น<br>ของแต่ละหมู่บ้านเคลื่อนผ่านชุมชน ก็ได้รับความสนใจจากประชาชน ออกมา<br>ร่วมงานตลอดเส้นทางที่ขบวนผ่านจนถึงวัด และร่วมแรงร่วมใจกัน<br>จัดเวทีประกวดฟ้อนรำเซิ้งบั้งไฟ<br>โดยได้รับความสนใจจากทุกหมู่บ้านส่งตัวแทนผู้แสดงเข้าร่วมประกวดประชันขัน<br>แข่ง ด้วยลีลาท่าทางที่สวยสดงดงาม<br>เป็นที่สนุกสนานต่อผู้มาร่วมงานอย่างคึกคักบุญบั้งไฟ<p> นับเป็นประเพณีความเชื่อที่สำคัญในคนอีสาน นิยมทำกันในเดือน 6<br>ของทุกปี โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ ได้แก่ จุดมุ่งหมายในการขอฝน<br>ชาวบ้านในภาคอีสาน ถือว่าบุญบั้งไฟเป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญมาก<br>เพราะเชื่อว่าหากหมู่บ้านใดไม่จัดงานบั้งไฟก็อาจก่อให้เกิด ภัยพิบัติ<br>เช่น โรคภัยไข้เจ็บ หรือทุพภิกขภัยแก่ชุมชนได้<br>ในขณะที่ช่วงจัดงานนี้เป็นช่วงที่ ชาวบ้านมีงานต้องทำมาก<br>เนื่องจากเป็นฤดู ของการทำนาปี<p> ฉะนั้น ที่ประชุมผู้ใหญ่บ้าน จึงต้องปรึกษาหารือกัน<br>เพื่อตัดสินใจว่าจะจัดหรือไม่ในปีนั้น หากตัดสินใจว่าจะไม่จัดแล้ว<br>ก็จำเป็นต้องไปทำพิธีที่ศาลปู่ตาของบ้าน<br>เพื่อขออนุญาตเลื่อนงานบุญนี้ไปในปีหน้า<br>การจัดงานและการละเล่นในประเพณีบุญบั้งไฟ<br>ในวันสุกดิบชาวบ้านจะจัดขบวนแห่บั้งไฟยังศาลปู่ตาของหมู่บ้าน<br>ทำพิธีเซ่นสรวง มีการจุดบั้งไฟที่ใช้ในการเสี่ยงทาย<br>เพื่อเสี่ยงทายดูความอุดมสมบูรณ์และความสำเร็จในการทำนาปีนั้น<p> จากนั้นก็พากันกินเหล้าฟ้อนรำ รอบศาลปู่ตาเป็นที่สนุกสนาน<br>จากนั้นก็พากันแห่บั้งไฟไปยังสถานที่จัดงาน<br>หรือหมู่บ้านที่จัดงานบุญบั้งไฟเพื่อจุดแข่งขันประกวดประชันกันต่อไป<br>ในปัจจุบันบั้งไฟที่ใช้จุดแข่งขัน มีหลากหลายที่นิยมเรียกกัน ได้แก่<br>บั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน ซึ่งมีขนาดของดินปืนมากน้อย<br>แตกต่างกันไป ในช่วงที่มีการจุดบั้งไฟนั้นนับเป็นช่วงตื่นเต้นและสนุกสนาน<br>โดยเฉพาะช่างบั้งไฟจะต้องลุ้นมากกว่าใคร<p> เพราะ หากบั้งไฟไม่ขึ้นก็จะถูกโยนลงบ่อโคลน<br>นัยว่าเพื่อเป็นการลงโทษ แต่ปัจจุบันนั้น ไม่ว่าบั้งไฟจะขึ้น<br>หรือไม่ขึ้นก็จะมีการโยนโคลน เพื่อความสนุกสนานมากกว่า<br>ว่ากันว่าการทำบั้งไฟนั้นจะต้องมีการศึกษาเรียนรู้<br>มีครูและมีศิษย์สืบทอดกันมา โดยทั่วไปจะถ่ายทอดต่อกันเป็นคนๆ เท่านั้น<br>ไม่ใช่คนทั่วไปอยากเรียนก็จะเรียนได้หมด<br>ครูจะเลือกถ่ายทอดให้ตัวต่อตัวสำหรับศิษย์ที่ครูเห็นว่ามีไหวพริบ<br>และมีพรสวรรค์ด้านการทำบั้งไฟเท่านั้น<p>ที่มา <a href="http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050205">http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050205</a>fgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-2715189119305101292009-05-08T15:26:00.001+07:002009-05-08T15:26:32.441+07:00ผู้ว่าฯสกลนครนำพุทธศาสนิกชนทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลเมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้( 8 พ.ค.) ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร<br>เขตเทศบาลเมืองสกลนคร นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ<br>ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานในพิธี ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป<br>เนื่องในวันวิสาบูชา<br>โดยมีพุทธศาสนิกชนพร้อมใจกันนุ่งขาวห่มขาวเข้าร่วมจำนวนมาก วันวิสาขบูชา<br>ถือว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง<br>เป็นวันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพาน<br>ซึ่งตรงกันวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 หรือราวเดือนพฤษภาคม<p> แต่หากตรงกับปีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน วันวิสาขบูชา<br>จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 7 หรือราวเดือนมิถุนายน<br>วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา<br>เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ<br>ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง 3 คราว<p> วันวิสาขบูชา<br>จึงนับว่าเป็นวันที่มีความสำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนทุกคน<br>เป็นวันที่มีการทำพิธีพุทธบูชา เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระองค์<br>ที่มีต่อปวงมนุษย์และสรรพสัตว์อันหาที่สุดมิได้<br>ซึ่งทางองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ<br>ได้ประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก<p> ในช่วงเย็นวันนี้ ที่ลานรวมใจไทสกล<br>ก็จะมีพุทธศาสนิกชนนับหมื่นเดินทางมาร่วมในพิธีแห่โคมบัวบูชา และทุงโบราณ<br>ไปถวายเป็นพุทธบูชาที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหารfgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5085119966567182115.post-65132268038735876902009-05-08T15:25:00.001+07:002009-05-08T15:25:48.834+07:00วันวิสาขบูชาร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ในสกลนครหงอยสกลนคร - บรรยากาศตามร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ในจังหวัดสกลนคร<br>เงียบเหงาประชาชนส่วนใหญ่หันไปสนใจการซื้อสินค้าตามซุปเปอร์มาเก็ตห่อชุด<br>สังฆทานเองอ้างราคาถูกกว่า<p> จากการสำรวจบรรยากาศการจำหน่ายชุดถวายสังฆทาน<br>ตามร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ในวันวิสาขบูชา ที่จังหวัดสกลนคร<br>เป็นไปด้วยความเงียบเหงาชุดสังฆทานที่หลายร้านเตรียมไว้จำนวนมาก ๆ<br>ขายไม่ออก โดยผู้ประกอบการระบุน่าจะเป็นจากสภาพเศรษฐกิจ<br>อีกทั้งในปัจจุบันร้านจำหน่ายเพิ่มจำนวนมากขึ้นทำให้มีการแข่งขันราคากัน<br>ด้วยการลดราคาตัดหน้าผู้ค้ารายเก่า<p> นายสุวิทย์ ลิ้มเลิศเจริญวนิชย์<br>เจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร กล่าวว่า<br>ในทุก ๆ ปีที่ผ่านมาการจำหน่ายเครื่องถวายสังฆทาน ธูปเทียน<br>และเครื่องสังฆภัณฑ์ของพระภิกษุสงฆ์ต่าง ๆ ในวันวิสาขบูชาจะขายดีมาก<br>แต่ในปีนี้แตกต่างจากปีก่อนมาก ยอดขายตกจากปีที่แล้วประมาณ 50<br>เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากการที่สถานการณ์ในปัจจุบันและสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังตก<br>ต่ำอยู่ในขณะนี้<p> จึงทำให้ผู้คนไม่ค่อยออกมาจับจ่ายสินค้าเท่าไหร่นัก<br>ทำให้สินค้าที่เตรียมไว้โดยเฉพาะชุดสังฆทานขายไม่ได้เลย<br>นอกจากนี้ยังพบว่าประชาชนที่มาซื้อส่วนใหญ่ก็จะซื้อเฉพาะพลาสติกห่อ<br>หรือถัง ส่วนสินค้าข้างในก็จะไปเลือกซื้อเองตามซุปเปอร์มาเก็ต<p> แต่ถ้าขาประจำก็จะรู้ว่าห่อเองไม่ได้รับมาอีกต่อหนึ่งก็จะเลือกซื้อทันที<p><br>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2552 14:24 น.fgscihttp://www.blogger.com/profile/01714485564098614642noreply@blogger.com0