วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ชาวบ้านเก็บเห็ดป่าขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

สกลนคร - ชาวบ้านจังหวัดสกลนคร เข้าป่าภูพานเก็บเห็ดมาวางขายริมถนน
เป็นรายได้เสริมระหว่างรอผลผลิตทางการเกษตร สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ


ที่ริมถนนสายสกลนคร-กาฬสินธ์ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จังหวัดสกลนคร
ชาวบ้านต่างพากันนำเห็ดป่าที่เก็บมาจากป่าภูพานมาวางบนเพิงเล็กๆ
ที่สร้างไว้ เพื่อขายเห็ดให้กับประชาชนที่ขับรถผ่านไปผ่านมา
ได้แวะเลือกซื้อกลับไปปรุงเป็นอาหารรับประทาน
โดยเห็ดป่าที่มีวางขายก็จะมีทั้ง เห็ดระโงก เห็ดดิน เห็ดผึ้ง เป็นต้น

เห็ดที่ได้รับความนิยมและมีผู้ซื้อกลับไปรับประทาน
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเห็ดระโงก และเห็ดดิน เนื่องจากเห็ดชนิดนี้
เมื่อนำไปปรุงเป็นอาหารประเภทผัด
และแกงเห็ดจะให้รสชาติที่ดีกว่าเห็ดชนิดอื่น
โดยราคาก็จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 170-200 บาท
ซึ่งพ่อค้า-แม่ค้าจะแบ่งเป็นกอง ในราคากอง ละ 50 บาท โดยวันหนึ่งๆ
พ่อค้าแม่ค้าเห็ดเหล่านี้มีรายได้จากการขายเห็ดข้างทาง วันละประมาณ
500-1,000 บาท เลยทีเดียว

นางแดง บึงสุวรรณ อายุ 46 ปี
หนึ่งในแม่ค้าที่นำเห็ดมาวางขายริมถนน ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า
ตนเองมีอาชีพทำนา ซึ่งช่วงนี้ก็ยังไม่ได้ทำอะไร
เนื่องจากเป็นช่วงที่รอดูแลและเก็บเกี่ยวผลผลิต
ก็เลยตัดสินใจร่วมกับเพื่อนบ้านคนอื่นๆ
พาเข้าป่าภูพานออกหาของป่ามาขายเพราะไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว
และช่วงนี้เนื่องจากเป็นฤดูฝนระหว่างเดือน พฤษภาคม - มิถุนายน ของทุกปี
ก็จะมีเห็ดป่าโผล่จากพื้นดินขึ้นมาหลากหลายชนิด จึงพากันเก็บมารับประทาน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเห็ดมีจำนวนมากจึงแบ่งมาวางขายอย่างที่เห็ด
โดยเห็ดที่ตนจะเก็บมารับประทานและขายนั้น
ตนจะเลือกเก็บเอาแต่เห็ดที่คนเฒ่าคนแก่ สอนให้เก็บมาแต่ดั้งแต่เดิม
อาทิเห็ดระโงก, เห็ดดิน เห็ดผึ้ง เป็นต้น ซึ่งในวันหนึ่งๆ
หากจะเก็บเห็ดมาขาย ก็ต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด
เพื่อให้ถึงป่าเห็ดก่อนสว่าง เนื่องจากหากถึงช่วงสายเห็ดก็จะบาน เหี่ยว
และตายก่อน ไม่สามารถนำมารับประทานหรือขายได้ และก็จะใช้เวลาประมาณ 2-3
ชั่วโมง จากนั้นจึงนำเห็ดที่หามาได้ แบ่งเป็นกองๆ เพื่อจำหน่าย

นางแดง บอกว่าจะต้องตื่นออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5
และบางครั้งจะต้องไปหาเห็ดที่ป่าไม้ซึ่งอยู่ไกลออกไปอีกก็ต้องตื่นตั้งแต่ตี
4 และกว่าจะมาถึงเพิงและวางขายได้ก็ประมาณ 11.00 น.
และวันหนึ่งๆก็จะขายได้ตกประมาณวันละ 500-1,000 บาท ซึ่งนางแดง
บอกว่าเป็นรายได้ที่ค่อนข้างดี เพราะตนเองก็ไม่ได้ลงทุนอะไร ลงทุนแต่แรง
และหากเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ถือว่ายังขายได้เป็นปกติ
ไม่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะราคาขายก็ยังคงเท่าเดิม
และลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นหน้าเก่าที่นิยมบริโภคเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว
โดยรายได้เหล่านี้ก็จะถูกนำไปเป็นค้ากับข้าวและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ในยามที่ครอบครัวรอฤดูกาลเพาะปลูกใหม่

ผู้ว่าฯ สกลลั่นเร่งแก้ปัญหาความยากจนทั้งเพิ่มผลผลิตเกษตร-หนุนอาชีพเสริม

สกลนคร - ผู้ว่าฯ
เมืองสกลชี้ปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งแก้คือปัญหาความยากจน
โดยจะมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันจะเร่งขจัดปัญหาสังคมโดยเฉพาะปัญหายาเสพติด เด็กติดเกม
และแหล่งอโคจรยามค่ำคืน


นายสมบัติ ตรีวัฒสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
เปิดเผยถึงปัญหาในจังหวัดสกลนคร ที่ทางจังหวัดจะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
มีทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำ ปัญหายาเสพติด ปัญหาสังคมคือ เด็กติดเกม
ดื่มสุรา และปัญหาความยากจน เป็นต้น แต่ที่เป็นปัญหาหลักของจังหวัดสกลนคร
คือ ปัญหาความยากจน โดยปัญหาความยากจนนี้ทางจังหวัด
มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพหลัก และอาชีพเสริม

โดยเฉพาะประชาชนจังหวัดสกลนคร ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร
หากดินในไร่นามีคุณภาพดี ก็จะช่วยให้เกิดผลผลิตที่ดีด้วย
ด้วยเหตุนี้จึงเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาด้วยการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออก
ตรวจสภาพดินให้กับประชาชนทุกราย
ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และแนะนำวิธีทางการเกษตรอย่างถูกต้อง
พร้อมกับส่งเสริมอาชีพรองคือ การผลิตสินค้า โอ-ท็อป ภายในอำเภอพรรณนานิคม

ทั้งนี้จะจัดฝึกหัดให้ประชาชนมีความคิดที่สร้างสรรค์
มีความประณีตในการออกแบบของผลิตภัณฑ์ เพื่อหารายได้เสริมในช่วงที่ว่างงาน
นอกจากนั้นยังต้องเร่งมือแก้ไขปัญหาสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด
ร้านเกม ร้านเหล้า หอพัก และสถานที่บันเทิง

สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้นจะส่งเสริมให้ประชาชนหันมาเล่น
กีฬา จัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ส่วนร้านเหล้าจะต้องมีใบอนุญาต
เจ้าของร้านต้องตรวจบัตรอย่างเข้มงวดห้ามให้นักเรียนอายุต่ำกว่า 18 ปี
หรือใส่ชุดนักเรียน นักศึกษาเข้าซื้อเด็ดขาด
ถ้าเจ้าของร้านไม่ทำตามกฎกติกาก็จะเชิญเจ้าของร้านมาพบและจะตั้งด่านตรวจจับ
ตลอดเวลา

ปัญหาร้านเกมในจังหวัดสกลนคร มีทั้งหมดกว่า 500 แห่งในทุกๆอำเภอ
ก็จะเร่งให้ทางโรงเรียนออกบัตรนักเรียน
เพื่อให้ร้านเกมตรวจสอบและจัดตั้งระบบออนไลน์ไม่ให้เล่นเกิน 3 ชั่วโมง/คน
และห้ามให้เด็กเล่นเกมในเวลาเรียน

ขณะที่ปัญหาหอพักในจังหวัดสกลนครมีหอพักมากกว่า 700 แห่ง
ส่วนหอพักจะต้องแยกหญิง-ชาย แต่ถ้าพบตึกหญิง-ตึกชายอยู่ด้วยกัน
จะยึดใบอนุญาตและดำเนินการตามกฎหมายทันที

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

โรงรับจำนำเมืองสกลคึกแห่จำนำหาเงินใช้เปิดเทอม

สกลนคร - โรงรับจำนำสกลนครคึกคัก ประชาชนแห่นำของมีค่ามาจำนำ
นำเงินไปใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม โดยมีเงินจ่ายออกไม่ต่ำกว่าวันละ 2 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในสถานธนานุบาล
หรือโรงรับจำนำของเทศบาลเมืองสกลนคร
ก่อนช่วงการเปิดภาคเรียนว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
มีบรรดาผู้ปกครองแห่นำของมีค่ามาจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายซื้อชุดนักเรียน
อุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลานในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนที่สถานการศึกษาต่างๆ
ในพื้นที่จังหวัดสกลนครจะเปิดภาคเรียนในวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 นี้
โดยสิ่งของมีค่าส่วนใหญ่ที่ประชาชนนำมาจำนำ มากที่สุด คือ ทองคำรูปพรรณ
เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นทีวี เครื่องเสียงต่างๆ เครื่องประดับที่มีค่า เช่น
นาฬิกาโรเล็กซ์ อุปกรณ์ทางการเกษตร เครื่องมือทางการช่าง เป็นต้น
โดยในช่วงนี้จะมีบรรดาผู้ปกครองเข้าไปใช้บริการภายในสถานธนานุบาลของเทศบาลฯ
ไม่ต่ำกว่าวันละ 200 คน และมีเงินที่จ่ายออกไปในแต่ละวัน ไม่ต่ำกว่า 2
ล้านบาท

ด้าน นายประเสริฐ แน่นหนา ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองสกลนคร
กล่าวว่า สำหรับมาตรการในการเตรียมเงินเพื่อรองรับประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการยัง
สถานธนานุบาลของเทศบาลในช่วงนี้ก่อนเปิดภาคเรียน
ซึ่งคาดว่าประชาชนโดยเฉพาะบรรดาผู้ปกครองจะเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก
และจะนำทรัพย์สินเข้ามาจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้า
ชุดนักเรียนให้แก่บุตรหลาน

ดัง นั้น
เพื่อเป็นการช่วยเหลือและรองรับความต้องการของประชาชนทางเทศบาลได้เตรียม
เงินสำรองให้กับสถานธนานุบาล เป็นจำนวนเงินกว่า 50 ล้านบาท
เพื่อรองรับกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการใช้จ่ายเงินในช่วงนี้
ซี่งตนมั่นใจว่าเงินสำรองกว่า 50 ล้านบาทที่ทางเทศบาลได้เตรียมไว้นั้น
น่าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ชาวนาสกลฯ เอาฤกษ์วันพืชมงคลทำนา

สกลนคร - ชาวนาเมืองสกล ถือเอาฤกษ์ทำนาในวันพืชมงคล มีทั้งไถนาเตรียมดิน
เพื่อความเป็นสิริมงคล และหวังได้ผลผลิตเป็นกอบเป็นกำ
จำหน่ายได้ราคาดีมีกำไร

ที่บ้านโคกคอน ตำบลโคกสี อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
ชาวนาถือเอาฤกษ์ไถนาในวันพืชมงคล เนื่องจากวันพืชมงคล หรือวันแรกนาขวัญ
ซึ่งมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตชาวไทยที่เป็นสังคมเกษตรกรรม
ได้ถือเอาฤกษ์วันนี้ลงมือทำนา มีทั้งไถนาและหว่านข้าว ทั้งนี้
ที่นอกจากจะยึดถือตามประเพณีเดิม

ทั้งนี้ เพื่อบูชาพระแม่โพสพ
ผู้ทำหน้าที่ปกปักรักษาข้าวในนาให้มีความอุดมสมบูรณ์
ตามความเชื่อที่สืบสานมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว
ยังหวังให้ต้นข้าวเจริญงอกงาม ได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย เป็นกอบเป็นกำ
และจำหน่ายได้ราคาดีมีกำไรอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ที่หลังจากพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
(วันไถหว่าน) ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกรุงเทพมหานครเสร็จสิ้นแล้ว
หลายหมู่บ้านที่ จ.สกลนคร ก็จะได้ประกอบพิธีทำบุญหมู่บ้าน
เพื่อความสิริมงคล มีการเสี่ยงทายฟ้าฝน และจัดงานบุญบั้งไฟ
เพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพญาแถนฟ้าเทวดาแห่งฝน และอนุรักษ์
ขนบธรรมเนียม ประเพณีไทยที่มีมาแต่โบราณ
ก่อนที่จะลงมือทำนาในฤดูเพาะปลูกข้าวนาปี

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000052271

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ชาวสกลฯ จุดเทียนชัยถวายพระพรในหลวง-พระราชินี

สกลนคร-พสกนิกรชาวสกลนครพร้อมใจจุด เทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เนื่องในวันฉัตรมงคล

เมื่อเวลา 19.19 น.คืนที่ผ่านมา (5 พ.ค.)
ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสกลนคร (หลังเก่า) นายพิทยา สุนทรวิภาต
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้นำหัวหน้าส่วนราชการทุกหมู่เหล่า ทหาร
ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า
ประชาชนชาวจังหวัดสกลนคร ร่วมกันประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะ
และจุดเทียนชัยถวายพระพร
เพื่อแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันฉัตรมงคล 5 พฤษภาคม
2552

จากนั้นนายพิทยา สุนทรวิภาต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
ได้จุดเทียนชัยส่งต่อให้กับพสกนิกรเพื่อร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล
ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย

พร้อมกันนั้นได้ร่วมกันกล่าวคำถวายราชสดุดีต่อเบื้องพระบรมฉายา
ลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
และประกาศจะร่วมใจกันสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมืองเพื่อให้เกิดความสงบสุข
จากนั้นได้ร่วมกันเปล่งเสียงไชโย และทรงพระเจริญพร้อมกัน


ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050484

"อ.พังโคน" จัดงานบุญบั้งไฟสืบสานวัฒนธรรมประเพณี

สกลนคร - อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ
สืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดแต่บรรพบุรุษ
เผยความเชื่อท้องถิ่นหากหมู่บ้านใดไม่จัดงานบั้งไฟ อาจเกิด ภัยพิบัติ
ในชุมชน

วันนี้ (5 พ.ค.) ที่อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ได้จัดงานประเพณี
บุญบั้งไฟขึ้น โดยสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
เป็นประธานเปิดงาน

นายสุรพล นิติกิจไพบูลย์
นายกเทศมนตรีตำบลพังโคนได้กล่าวรายงานถึงความเป็นมา
และวัตถุประสงค์ของการจัดงาน การจัดงานบุญบั้งไฟตำบลพังโคนว่าทาง
ประชาชนอำเภอพังโคน ทั้ง 5 ตำบล
ได้ตกแต่งบั้งไฟและขบวนแห่เข้าประกวดแข่งขันกันอย่างคึกคัก
ซึ่งแต่ละขบวนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ย้อนยุค อย่างสวยงาม
ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน
ท่ามกลางความสนใจของผู้ชมซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
แต่ละขบวนประดับประดาบั้งไฟกันอย่างสุดฝีมือ

พร้อมทั้งมีผู้แต่งกายเป็นท้าวผาแดง และ นางไอ่คำนั่ง
ประจำขบวนแห่บั้งไฟทุกขบวนสวยงามไปอีกรูปแบบหนึ่ง
เมื่อขบวนการแสดงฟ้อนรำประกอบดนตรีพื้นเมืองของท้องถิ่น
ของแต่ละหมู่บ้านเคลื่อนผ่านชุมชน ก็ได้รับความสนใจจากประชาชน ออกมา
ร่วมงานตลอดเส้นทางที่ขบวนผ่านจนถึงวัด และร่วมแรงร่วมใจกัน
จัดเวทีประกวดฟ้อนรำเซิ้งบั้งไฟ
โดยได้รับความสนใจจากทุกหมู่บ้านส่งตัวแทนผู้แสดงเข้าร่วมประกวดประชันขัน
แข่ง ด้วยลีลาท่าทางที่สวยสดงดงาม
เป็นที่สนุกสนานต่อผู้มาร่วมงานอย่างคึกคักบุญบั้งไฟ

นับเป็นประเพณีความเชื่อที่สำคัญในคนอีสาน นิยมทำกันในเดือน 6
ของทุกปี โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ ได้แก่ จุดมุ่งหมายในการขอฝน
ชาวบ้านในภาคอีสาน ถือว่าบุญบั้งไฟเป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญมาก
เพราะเชื่อว่าหากหมู่บ้านใดไม่จัดงานบั้งไฟก็อาจก่อให้เกิด ภัยพิบัติ
เช่น โรคภัยไข้เจ็บ หรือทุพภิกขภัยแก่ชุมชนได้
ในขณะที่ช่วงจัดงานนี้เป็นช่วงที่ ชาวบ้านมีงานต้องทำมาก
เนื่องจากเป็นฤดู ของการทำนาปี

ฉะนั้น ที่ประชุมผู้ใหญ่บ้าน จึงต้องปรึกษาหารือกัน
เพื่อตัดสินใจว่าจะจัดหรือไม่ในปีนั้น หากตัดสินใจว่าจะไม่จัดแล้ว
ก็จำเป็นต้องไปทำพิธีที่ศาลปู่ตาของบ้าน
เพื่อขออนุญาตเลื่อนงานบุญนี้ไปในปีหน้า
การจัดงานและการละเล่นในประเพณีบุญบั้งไฟ
ในวันสุกดิบชาวบ้านจะจัดขบวนแห่บั้งไฟยังศาลปู่ตาของหมู่บ้าน
ทำพิธีเซ่นสรวง มีการจุดบั้งไฟที่ใช้ในการเสี่ยงทาย
เพื่อเสี่ยงทายดูความอุดมสมบูรณ์และความสำเร็จในการทำนาปีนั้น

จากนั้นก็พากันกินเหล้าฟ้อนรำ รอบศาลปู่ตาเป็นที่สนุกสนาน
จากนั้นก็พากันแห่บั้งไฟไปยังสถานที่จัดงาน
หรือหมู่บ้านที่จัดงานบุญบั้งไฟเพื่อจุดแข่งขันประกวดประชันกันต่อไป
ในปัจจุบันบั้งไฟที่ใช้จุดแข่งขัน มีหลากหลายที่นิยมเรียกกัน ได้แก่
บั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน ซึ่งมีขนาดของดินปืนมากน้อย
แตกต่างกันไป ในช่วงที่มีการจุดบั้งไฟนั้นนับเป็นช่วงตื่นเต้นและสนุกสนาน
โดยเฉพาะช่างบั้งไฟจะต้องลุ้นมากกว่าใคร

เพราะ หากบั้งไฟไม่ขึ้นก็จะถูกโยนลงบ่อโคลน
นัยว่าเพื่อเป็นการลงโทษ แต่ปัจจุบันนั้น ไม่ว่าบั้งไฟจะขึ้น
หรือไม่ขึ้นก็จะมีการโยนโคลน เพื่อความสนุกสนานมากกว่า
ว่ากันว่าการทำบั้งไฟนั้นจะต้องมีการศึกษาเรียนรู้
มีครูและมีศิษย์สืบทอดกันมา โดยทั่วไปจะถ่ายทอดต่อกันเป็นคนๆ เท่านั้น
ไม่ใช่คนทั่วไปอยากเรียนก็จะเรียนได้หมด
ครูจะเลือกถ่ายทอดให้ตัวต่อตัวสำหรับศิษย์ที่ครูเห็นว่ามีไหวพริบ
และมีพรสวรรค์ด้านการทำบั้งไฟเท่านั้น

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050205

ผู้ว่าฯสกลนครนำพุทธศาสนิกชนทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล

เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้( 8 พ.ค.) ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
เขตเทศบาลเมืองสกลนคร นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานในพิธี ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป
เนื่องในวันวิสาบูชา
โดยมีพุทธศาสนิกชนพร้อมใจกันนุ่งขาวห่มขาวเข้าร่วมจำนวนมาก วันวิสาขบูชา
ถือว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง
เป็นวันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพาน
ซึ่งตรงกันวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 หรือราวเดือนพฤษภาคม

แต่หากตรงกับปีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน วันวิสาขบูชา
จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 7 หรือราวเดือนมิถุนายน
วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา
เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ
ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง 3 คราว

วันวิสาขบูชา
จึงนับว่าเป็นวันที่มีความสำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนทุกคน
เป็นวันที่มีการทำพิธีพุทธบูชา เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระองค์
ที่มีต่อปวงมนุษย์และสรรพสัตว์อันหาที่สุดมิได้
ซึ่งทางองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ
ได้ประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก

ในช่วงเย็นวันนี้ ที่ลานรวมใจไทสกล
ก็จะมีพุทธศาสนิกชนนับหมื่นเดินทางมาร่วมในพิธีแห่โคมบัวบูชา และทุงโบราณ
ไปถวายเป็นพุทธบูชาที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร

วันวิสาขบูชาร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ในสกลนครหงอย

สกลนคร - บรรยากาศตามร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ในจังหวัดสกลนคร
เงียบเหงาประชาชนส่วนใหญ่หันไปสนใจการซื้อสินค้าตามซุปเปอร์มาเก็ตห่อชุด
สังฆทานเองอ้างราคาถูกกว่า

จากการสำรวจบรรยากาศการจำหน่ายชุดถวายสังฆทาน
ตามร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ในวันวิสาขบูชา ที่จังหวัดสกลนคร
เป็นไปด้วยความเงียบเหงาชุดสังฆทานที่หลายร้านเตรียมไว้จำนวนมาก ๆ
ขายไม่ออก โดยผู้ประกอบการระบุน่าจะเป็นจากสภาพเศรษฐกิจ
อีกทั้งในปัจจุบันร้านจำหน่ายเพิ่มจำนวนมากขึ้นทำให้มีการแข่งขันราคากัน
ด้วยการลดราคาตัดหน้าผู้ค้ารายเก่า

นายสุวิทย์ ลิ้มเลิศเจริญวนิชย์
เจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร กล่าวว่า
ในทุก ๆ ปีที่ผ่านมาการจำหน่ายเครื่องถวายสังฆทาน ธูปเทียน
และเครื่องสังฆภัณฑ์ของพระภิกษุสงฆ์ต่าง ๆ ในวันวิสาขบูชาจะขายดีมาก
แต่ในปีนี้แตกต่างจากปีก่อนมาก ยอดขายตกจากปีที่แล้วประมาณ 50
เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากการที่สถานการณ์ในปัจจุบันและสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังตก
ต่ำอยู่ในขณะนี้

จึงทำให้ผู้คนไม่ค่อยออกมาจับจ่ายสินค้าเท่าไหร่นัก
ทำให้สินค้าที่เตรียมไว้โดยเฉพาะชุดสังฆทานขายไม่ได้เลย
นอกจากนี้ยังพบว่าประชาชนที่มาซื้อส่วนใหญ่ก็จะซื้อเฉพาะพลาสติกห่อ
หรือถัง ส่วนสินค้าข้างในก็จะไปเลือกซื้อเองตามซุปเปอร์มาเก็ต

แต่ถ้าขาประจำก็จะรู้ว่าห่อเองไม่ได้รับมาอีกต่อหนึ่งก็จะเลือกซื้อทันที


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2552 14:24 น.