วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นร.สกลฯ ติดหวัด 2009 แล้ว 4 รายเข้าข่ายกว่า 100 - เผยเพิ่งกลับจากดูคอนเสิร์ตดงบังชิงจิ

สกลนคร - หน่วยควบคุมโรค ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร
และโรงพยาบาล ระดมแพทย์ พยาบาล
เข้าตรวจอาการนักเรียนในโรงเรียนประจำจังหวัด
พบมีอาการคล้ายไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 สั่งปิดโรงเรียนด่วน
เผยมีนักเรียนเข้าข่ายต้องเก็บตัวเฝ้าระวังกว่า 100 คน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่แพทย์
พยาบาลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร
เจ้าหน้าที่จากศูนย์ควบคุมโรคนำโดยแมลงที่ 73
พร้อมเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลสกลนคร กว่า 10 คน
ได้นำอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ไปที่โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล
ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร

หลังจากที่เมื่อเย็นวันที่ 2 ก.ค.52
ได้มีผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/7
นำบุตรเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสกลนคร เนื่องจากป่วยเป็นไข้หวัด
มีอาการน้ำมูกไหล ไอและจาม
ซึ่งหลังจากตรวจอย่างละเอียดจึงพบว่านักเรียนดังกล่าวเข้าข่ายติดเชื้อไข้
หวัดใหญ่ 2009 จากนั้นจึงได้แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ

พร้อมกันนี้ได้สั่งปิดอาคารเรียนที่ 1 ทั้งหมด แล้วนำนักเรียนชั้น
ม.3/7 มาตรวจและสอบถามถึงสาเหตุรวมทั้งการนำพาของเชื้อโรค ทำให้ทราบว่า
นกเรียนในชั้นดังกล่าวเดินทางไปชมคอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29
มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อกลับไปถึงจังหวัดสกลนครก็มีอาการดังกล่าว

ใน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่านักเรียนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009
อย่างแน่นอน จำนวน 4 ราย
อยู่ในการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีอาการเดียวกันอีก 7 ราย และอีก
120 ราย มีอาการเป็นหวัด น้ำมูกไหล ไอ จาม และมีเสมหะ
ซึ่งต้องอยู่ในระหว่างการดูอาการ และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

นายสมชาย โสมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล บอกว่า
หลังจากที่ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลสกลนคร เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 2
กรกฎาคม 52 ว่ามีนักเรียนในโรงเรียนเข้าข่ายมีอาการป่วย
ซึ่งสงสัยว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลายคน
เนื่องจากได้มีผู้ปกครองนำนักเรียนไปพบแพทย์
จึงได้สั่งการให้คณะครูเฝ้าติดตามอาการนักเรียน
พร้อมประสานเจ้าหน้าที่แพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด
เข้ามาตรวจดูอาการของเด็กในวันนี้

ในเบื้องต้นได้ทำการตรวจสอบนักเรียนชั้น ม.3/7 ทั้งชั้นเรียน
ซึ่งโรงเรียนสกลราชฯ มีนักเรียนชั้น ม.3 เกือบ 700 คน เพื่อตรวจดูอาการ
เนื่องจากเกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื่ออย่างรวดเร็ว

ในเบื้องต้นทราบว่าเด็กทั้ง 4
คนที่เข้าข่ายติดเชื้อนั้นได้กลับมาจากกรุงเทพมหานคร
ภายหลังจากไปดูคอนเสริต์วงดงบังชิงกิ ดาราชื่อดังเจ้าประเทศเกาหลี
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา
แล้วเด็กมาโรงเรียนจึงเริ่มมีอาการจากนั้นผู้ปกครองจึงพาไปพบแพทย์ดังกล่าว
ขณนี้ตนได้สั่งปิดเรียนทันที เพื่อให้แพทย์มาทำการตรวจสอบ
พร้อมกับปล่อยให้เด็กนักเรียนกลับบ้าน
เพื่อที่ทางโรงเรียนจะทำความสะอาดอาคารเรียน
ซึ่งอาคารเรียนดังกล่าวเป็นอาคารเรียนที่ 1 ซึ่งมีนักเรียนตั้งแต่ชั้น
ม.1-ม.3 ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่โรงเรียนได้มีการปิดเรียนยาวถึง 5 วัน
ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
แต่อย่างไรก็ดีคาดว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้

สำหรับกำหนดการเดิมที่เด็กนักเรียนชั้น ม.3 เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
ที่ทางจังหวัดได้จัดขึ้นในเทศกาลเข้าพรรษานั้น
ทางโรงเรียนได้แจ้งงดการเข้าร่วมกิจกรรมของเด็ก ม.3
ทั้งหมดแล้วเพื่อป้องกันไว้ อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งต่อเด็กในโรงเรียนทั้ง 4
พันกว่าคนแล้วว่า หากเด็กคนใดสงสัยว่าจะมีอาการให้แจ้งครู
หรือไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการทันที

ในขณะที่ น.ส.อนงค์ บังกระโทก นักสาธารณสุขชำนาญการ
หน.งานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า
จากการตรวจอาการของเด็กนักเรียนในเบื้องต้น ซึ่งมีอาการดังกล่าว
ให้ตั้งสมมติฐานของโรคไว้ก่อนว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009
ซึ่งจะต้องทำตามมารฐาน และรอการยืนยันการตรวจอีกครั้ง

อย่าง ไรก็ตาม
ขณะนี้ตนได้เดินทางไปที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอสว่างแดนดิน
จังหวัดสกลนคร เนื่องจากนักเรียนมีลักษณะอาการคล้ายกัน
และขณะนี้ทางจังหวัด ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แจ้งประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนให้ทราบอย่างเร่งด่วน

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ชาวสกลฯ แห่เสี่ยงโชควันเข้าพรรษาลอตเตอรี่ขายดี

สกลนคร - พุทธศาสนิกชนชาวสกลนครเข้าวัดไหว้องค์พระธาตุเชิงและหลวงพ่อองค์แสน
ขอพรในเทศกาลเข้าพรรษา
ด้านแม่ค้าขายลอตเตอรี่บอกขายดีเป็นพิเศษคนแห่เสี่ยงโชค

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเทศกาลงานเข้าพรรษาที่วัดพระธาตุเชิงชุม
วรวิหาร จังหวัดสกลนคร
ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเดินทางไปกราบนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมและ
หลวงพ่อองค์แสน ซึ่งเป็นพระธาตุและพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง
ของจังหวัดสกลนคร ซึ่งมีประชาชนหลั่งไหลมานมัสการตลอดทั้งวัน
โดยพุทธศาสนิกชนต่างเข้าไปกราบไหว้ขอพรองค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อองค์
แสนอย่างไม่ขาดสาย

บางรายถือโอกาสทำบุญใหญ่ และทำบุญสะเดาะเคราะห์
บ้างก็นำเทียนพรรษา ดอกไม้ ธูปเทียนและทองคำเปลวไปปิดองค์พระ
บ้างก็ทำบุญสังฆทานภายในพระอุโบสถ หลังจากนั้น
บางรายก็เช่าวัตถุมงคลกลับไปบูชา
บ้างก็ขอพรหลวงพ่อให้โชคดีจึงแวะซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อเสี่ยงโชค
ที่มีพ่อค้าแม่ค้าข่ายอยู่รายรอบพระอุโบสถ

โดยแม่ค้าบอกว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลขายดีกว่าปกติเพราะคนมากันมาก
ถือโอกาสเสี่ยงโชคเพราะขอพรจากหลวงพ่อองค์แสนแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่ประจำพระอุโบสถบอกว่า
คลื่นพุทธศาสนิกชนเนื่องแน่นมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาและคงจะเนืองแน่นไป
อีกจนถึงวันที่ 8 กรกฎาคม
ซึ่งทางวัดได้จัดเตรียมความพร้อมและอำนวยความสะดวกดูแลประชาชนที่มากราบไหว้
องค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อองค์แสน

อพวช.ร่วมทรูวิชั่นแข่งจรวดน้ำคัดตัวแทนภาคชิงแชมป์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กรกฎาคม 2552 15:43 น.
สกลนคร - อพวช.จับมือทรูวิชั่น จัดแข่งจรวดน้ำชิงตัวแทนภาคอีสาน
เฟ้นหา 40 ทีมตัวแทนภาคเข้าชิงแชมป์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

นายธนากร พละชัย
รองผู้อำนวยการองค์การพิพธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วย นายปัญญา มหาชัย
อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ร่วมกันเปิดแถลงข่าวที่ห้องประชุม
อาคาร 10 มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ว่า จากการที่
อพวช.ได้ริเริ่มการแข่งขันจรวดขวดน้ำ มาตั้งแต่ปี 2545
ปรากฏว่ามีเยาวชนและโรงเรียนทั่วประเทศทุกภาคให้ความสนใจเดินทางมาร่วมแข่ง
ขันจำนวนมาก

ดังนั้น เพื่อให้กิจกรรมนี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
อพวช.และกลุ่มบริษัท ทรูวิชั่น จำกัดมหาชน
กำหนดจัดกิจกรรมแข่งขันจรวดขวดน้ำระดับประเทศ ครั้งที่ 8 ขึ้นอีกครั้ง
โดยเริ่มแข่งขันในระดับภูมิภาคเป็นอันดับแรก
ซึ่งในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 16-17
กรกฎาคม 52

โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนครเป็นศูนย์กลางการ
แข่งขัน ซึ่งเป็นปีที่ 3
แล้วและได้เปิดรับสมัครนักเรียนจากโรงเรียนต่างขณะนี้มีทีมตัวแทนโรงเรียน
แล้วกว่า 300 ทีม ซึ่งจะมีการแข่งขันและคัดเหลือ 40 ทีม
เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันระดับประเทศในวันที่ 23-24 ตุลาคม 2552
ที่สนามแข่งขัน อพวช.คลองห้า จ.ปทุมธานี

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ผู้ใหญ่บ้านสกลฯ โร่แจ้งความ "เป็ดเหลิม"ส่งเสื้อแดงข่มขู่

สกลนคร- ผู้ใหญ่บ้านในอำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร โร่แจ้งความ
หลังกลุ่มคนเสื้อแดงส่งคนไปขู่บอกให้วางตัวเป็นกลาง อ้าง "เฉลิม
อยู่บำรุง" สั่งผ่านนายอำเภอให้มาเตือน

วันนี้ (10 มิ.ย.) นายค้าย ผ่องแผ้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5
และนายยืนยง พิมพ์จันนา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ได้นำนางพัดสี ผ่องแผ้ว
อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 5 ต.บ้านเหล่า อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร
และนางจันวรา พิมจันนา เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เจริญศิลป์
เพื่อเข้าแจ้งความว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.52 เวลา 09.00 น. นายสุรัตน์
ไชยทา หรือครูเตี้ย พร้อมพวกอีก 5 คน ขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้
สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน นางพัดสี ผ่องแผ้ว
และได้สอบถามนางจันวรา พิมจันนา ภรรยาของนายยืนยง ผญบ.หมู่ 3
ว่าผู้ใหญ่บ้านยืนยงอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ ชายคนดังกล่าวได้สอบถามนางพัดสี
ผ่องแผ้ว ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านค้าย โดยได้สอบถามหาผู้ใหญ่บ้านค้ายเช่นกัน
ตนจึงบอกกับกลุ่มชายทั้ง 5 คนว่า ผู้ใหญ่บ้านได้ออกไปทำธุระกับ ส.ส.ค่ำๆ
ถึงจะกลับ ชาย 1 ใน 5 คน คือนายสุรัตน์ ไชยทา หรือครูเตี้ย
ได้สั่งบอกทั้งสองให้ไปบอกผู้ใหญ่บ้านทั้งสองคนว่าให้ผู้ใหญ่บ้านอยู่เฉยๆ
อย่าเอียงซ้าเอียงขวา ให้วางตัวเป็นกลาง

และ ยังได้กำชับว่าแม้แต่นายอำเภอ และปลัดอำเภอได้ไปสั่งมาแล้ว
และก่อนกลับนายสุรัตน์ ไชยทา ได้ขึ้นรถได้ตะโกนบอก
ภรรยาผู้ใหญ่บ้านทั้งสองอีกว่าที่บอกไปนั้นให้ทำตามด้วย เพราะ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สั่งมา


นายค้ายกล่าวต่อว่า
ตนจึงตกใจกลัวเพราะเนื่องจากเป็นช่วงระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม
ส.ส.เขต 3 สกลนคร
เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจึงเดินทางมาพบพนักงานสอบ
สวน สภ.เจริญศิลป์ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ซึ่งทางในการนั้นหากผู้แจ้งถูกทำร้ายหรือได้รับอันตรายให้สันนิษฐานไว้ก่อน
ว่าเกิดจากกรณีดังกล่าว
ในชั้นนี้ผู้แจ้งยังไม่ประสงค์แจ้งความร้องทุกข์ที่จะดำเนินคดีกับใครแต่
อย่างได

ทางด้าน พ.ต.ต.จำลอง พงษ์ศรีแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เจริญศิลป์
ได้รับแจ้งความและได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000065406

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ชาวสกลฯ ตื่นกิ้งก่ายักษ์โผล่ริมน้ำหนองหาร

สกลนคร-ชาวบ้านที่ออกจับปลาในอ่างน้ำ หนองหาร
ตื่นตกใจเห็นสัตว์เลื้อยคลานประหลาดรูปร่างคล้ายกิ่งก่า
แต่มีขนาดใหญ่กว่าหลายเท่า เชื่อเป็นสัตว์ที่เติบโตโดยธรรมชาติ
เพราะชาวบ้านท้องถิ่นไม่มีใครเลี้ยงสัตว์ประหลาดประเภทนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ชาวประมงที่ออกจับปลาในอ่างน้ำหนองหารได้พบเห็นกิ้งก่ายักษ์เกาะติดอยู่บน
กิ่งต้นไทรริมน้ำหนองหาร สร้างความตื่นตกใจแก่ประชาชนที่พบเห็น
ซึ่งไม่เคยพบเห็นในบริเวณพื้นที่นี้มาก่อน
โดยสัตว์เลื้อยคลานที่เห็นมีลำตัวเหมือนกิ้งก่า
จึงได้ช่วยกันจับลงมาจากต้นไม้เพื่อนำไปให้ผู้คนที่บ้านดู
ซึ่งมีขนาดความยาวประมาณ 85 ซม. สีเขียว มี 4 ขาแต่ละขามี 5 เล็บ
ผิวหนังเป็นเกล็ดคละสีคล้ายกับกิ้งก่าเพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่ากันหลายเท่า

ผู้ที่จับกิ้งก่ายักษ์ตัวนี้มาได้ เล่าว่า
อาศัยจับปลาในลำน้ำหนองหารมาหลายสิบปี ไม่ปรากฏเห็นมีสัตว์ชนิดนี้มาก่อน
มีเพียงกิ้งก่าตัวเล็กธรรมดา
แต่ไม่เคยมีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้และไม่เชื่อว่าจะมีคนมาปล่อยทิ้งไว้น่าจะ
เติบโตขึ้นเองตามธรรมชาติมากกว่า
หรือว่าจะเป็นสัตว์ที่มีคนนำมาเลี้ยงแล้วเล็ดลอดออกจากกรง

ทั้งนี้ตนเองยังเชื่อว่าน่าจะไม่ใช่
เพราะว่าไม่ปรากฏเห็นผู้คนในพื้นที่เลี้ยงสัตว์ประเภทนี้
สัตว์กิ้งก่ายักษ์ตัวนี้มันมีความสามารถพิเศษ
คือปรับเปลี่ยนสีเข้ากลมกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เหมือนมากและได้อย่างรวด
เร็ว ภายใน 2-3 นาทีเท่านั้น
แต่มีส่วนประกอบต่างๆคล้ายคลึงกันกับกิ้งก่าแทบทุกอย่างแปลกแต่ว่าฟันของมัน
ไม่มี เดินเชื่องช้า
อาวุธประจำกายคือเล็บของมันที่ได้ช่วยในการป้องกันตัวเอง

ส่วนอาหารน่าจะกินประเภทพืชผักและผลไม้ตามธรรมชาติ
จากเท่าที่สังเกตดูพฤติกรรม
หลังจากนี้ก็คงไม่เก็บกักขังไว้ก็คงจะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติของมันต่อไป

ตร.สกลฯรวบโจ๋คาชุดนักศึกษาหนีเรียนเล่นเกม-ตีสนุ้ก

สกลนคร - ตำรวจเมืองสกล ออกตรวจร้านเกมและโต๊ะสนุกเกอร์
รวบนักเรียนคาชุดนักศึกษาที่หนีเรียนมาเล่นเกมและตีสนุ้กได้จำนวนหนึ่ง
ขณะที่เจ้าของร้านถูกตั้งข้อหาดำเนินคดี

วันนี้ (5 มิ.ย.) ว่าที่ พ.ต.ประภาส สะท้านอิทธิฤทธิ์
ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร
พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ท.เอนก แสนมหาชัย, นายณรงค์ศักดิ์ ชะเอม,
นายนัฐจิรัชย์ ศรีวิชัย, นายบรรพต หนุยจันทึก,
เจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา จังหวัดสกลนคร
และเจ้าหน้าที่ครู
อาจารย์จำนวนหนึ่งจากศูนย์ประสานงานพนักงานส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนัก
ศึกษาจังหวัดสกลนครได้ตรวจสอบความเรียบร้อยตามร้านเกมหน้าสถาบันราชภัฏ
สกลนคร และวิทยาลัยเทคนิคสกลนคร สถานศึกษาหลายแห่ง

จากการออกตรวจ
พบนักเรียนนักศึกษาสวมชุดนักเรียนนักศึกษาใช้เวลาว่างจากคาบเรียนหลบมาเล่น
เกมจำนวนมากและพบว่าที่ร้านนิตยาเกม หลังตลาดสดบ้านธาตุนาเวง
ต.ธาตุเชิงชุม มีนักเรียนนักศึกษาออกมาเล่นเกมจำนวนหนึ่ง
จึงเข้าตรวจสอบและให้กลับไปโรงเรียนหรือบ้าน

พร้อมควบคุมตัวนักศึกษาที่สวมชุดจากวิทยาลัยเทคนิคสกลนคร 2 คน คือ
นายเอ กับ นายบอย อายุ 16 และ 17 ปี (นามสมมติ) พร้อมแจ้ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.เมืองสกลนคร มาดำเนินการ

ต่อมา พ.ต.ต.นาม พานิชนอก สวป.เมืองสกลนคร ร.ต.ท.อุทิศ ราชัย
รอง.สวป.และ ดต.ทองพูน บัวเพชร มาทำการเชิญตัว นางจิราพร รวมภักดี
อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 3 ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร
เจ้าของร้านนิตยาเกม
มารับทราบที่ปล่อยให้เด็กเข้ามาเล่นและเป็นการกระทำผิดผ่าผื่นประกาศของ
จังหวัด 5 ข้อ ดำนินคดีแจ้งข้อหายุยงส่งเสริมให้เด็กกระทำความผิด
ตามมาตรา 26(3) พ.ร.บ.เด็กซึ่งมีโทษ จำคุก 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 3
หมื่นบาท ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

ส่วนนักศึกษา 2
คนได้นำส่งมอบให้กับทางสถาบันศึกษามารับตัวไปและได้เชิญผู้ปกครองมาพบหาทางแก้ไขต่อไป

"เป็ดเหลิม" ช่วยผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทยเขต 3 หาเสียง

สกลนคร - "เป็ดเหลิม" นำพลพรรคเพื่อไทย ช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่
3 จ.สกลนคร ปักหลักช่วยหาเสียงจนถึง 8 มิ.ย.นี้ ยกนโยบายเก่าไทยรักไทย
ขอคะแนนเสียงชาวสกลนคร พร้อมโจมตีการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ผิดพลาด
และลอกนโยบายประชานิยม

วันนี้ (4 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13 .00 น.ที่โรงเรียนอนุบาลเจริญศิลป์
อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย
และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร เพื่อหาเสียงช่วย
นางอนุรักษ์ บุญศล ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 2
ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนที่ว่างลง ภายหลังจาก นายพงษ์ศักดิ์ บุยศล
อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ถูกศาลฎีกาตัดสินให้ใบแดง

กกต.จึงประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ 3
จังหวัดสกลนคร ในวันที่ 21 มิถุนายน 2552 นี้
และกำหนดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 13- 14 มิถุนายนนี้เช่นกัน
การลงพื้นที่ครั้งนี้นายเฉลิมเดินทางมาพร้อมกับ ส.ส.ในสังกัดพรรคอีกกว่า
10 คน โดยทั้งหมดจะปักหลักในพื้นที่หาเสียงจนถึงวันที่ 8 มิถุนายน
ร่วมกันหาเสียงในพื้นที่ทั้ง 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอสว่างแดนดิน,
ส่องดาว, คำตะกล้า, เจริญศิลป์ และอำเภอส่องดาว

ส่วน บรรยากาศการเปิดเวทีหาเสียง
มีประชาชนเป็นจำนวนมากให้ความสนใจเข้ามาฟังการปราศรัยของ ร.ต.อ.เฉลิม
อยู่บำรุง ก่อนขึ้นปราศรัยของ ร.ต.อ.เฉลิม
ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยทยอยสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย
โจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาลที่ผิดพลาด

ต่อมา นางอนุรักษ์ บุญศล ได้ขึ้นปราศรัยชี้แจงนโยบายของพรรค
พร้อมชูหากเลือกพรรคเพื่อไทย เหมือนเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมกับมุ่งประเด็นชี้ไปที่จุด
อ่อนของการบริหารประเทศของรัฐบาลประชาธิปัตย์
รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่ส่งผู้สมัครลงชิงชัยในเขตนี้
ทั้งขอโอกาสจากประชาชนเพื่อทำหน้าที่ในสภาแทนที่ นายพงษ์ศักดิ์ บุญศล
สามีที่ถูกใบแดง
โดยยืนยันจะนำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เร่งเข้าไปแก้ไข
โดยตลอดการปราศรัยของนางอนุรักษ์ ได้รับความสนใจและเสียงปรบมือตลอดเวลา

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ขึ้นเวทีปราศรัย
โดยได้ชี้แจงนโยบายของพรรค อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค
โครงการเงินกองทุนหมู่บ้าน โครงการ sml
และอีกหลายนโยบายที่พรรคเพื่อไทยจะทำให้กับพี่น้องประชาชน
รวมถึงการโจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาลประชาธิปัตย์
ที่ผิดพลาดทั้งเรื่องราคาน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ
และการไปกู้เงินจากต่างประเทศมาลงทุนส่งผลให้ประเทศไทยต้องเป็นหนี้กว่า 2
หมื่นล้านบาท

ทั้ง ได้โจมตีการลอกนโยบายประชานิยมที่อดีตนายกฯทักษิณ
เป็นคนต้นคิดไปใช้ในปัจจุบัน ทั้งๆ ที่สมัยประชาธิปัตย์
เป็นฝ่ายค้านโจมตีมาตลอด รายงานแจ้งว่า
ก่อนการปราศรัยของพรรคเพื่อไทยเริ่มขึ้น
โฆษกบนเวทีได้มีข่าวแจ้งต่อผู้มาร่วมงานว่า
มีเจ้าหน้าที่ของรัฐได้สกัดกั้นกลุ่มประชาชนที่ต้องการมาฟังการปราศรัยใน
ครั้งนี้ โดยตรวจยึดรถของประชาชนไว้ในหลายพื้นที่สร้างความไม่พอใจแก่ผู้เข้าร่วมรับ
ฟังคำปราศรัยเป็นอย่างมาก

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

จังหวัดสกลฯ ระดมพลซ้อมแผนรับมือหวัดนก-หวัดใหญ่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2552 12:35 น.
สกลนคร - จังหวัดสกลนครซ้อมแผนป้องกันแก้ไขปัญหาการระบาดไข้หวัดนก
และไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำลองเหตุการณ์สมมติ พื้นที่
อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร เตรียมความพร้อมของทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง
หากเกิดเหตุการณ์จริง สามารถที่จะปฏิบัติการได้ทันท่วงที

จังหวัดสกลนครระดมกำลังฝึกซ้อมแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดใหญ่
ของโรคไข้หวัดนก และไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยมี นายสมบัติ
ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
เป็นประธานในการเปิดการซ้อมแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดไข้หวัดนก
และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

ทั้งนี้ ได้จำลองเหตุการณ์สมมติพื้นที่ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร
เตรียมความพร้อมของทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง
หากเกิดเหตุการณ์จริงสามารถที่จะปฏิบัติการได้ทันท่วงที

โดยเหตุการณ์สมมตินี้เริ่มจากมีข่าวการตายผิดปกติของสัตว์ปีก
และมีคนป่วยต้องสงสัย ใน อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร
จังหวัดจึงได้ประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติ
เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเริ่มเคลื่อนไหว ตั้งแต่เจ้าหน้าที่
อปพร.ตั้งด่านตรวจการเข้าขออกหมู่บ้าน
การประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับชาวบ้านผ่านทางรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่
หอกระจายข่าว เสียงตามสาย การประชุมกรรมการหมู่บ้าน
และการรายงานสถานการณ์เข้ามายังจังหวัด
เพื่อให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ออกไปฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ทำลายซากสัตว์
กำหนดเขตปลอดเชื้อโรค

รวมถึงเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.
ลงไปดูแลผู้ป่วย นำผู้ป่วยเข้ารับการรักษา การซ้อมครั้งนี้
เป็นการซ้อมแผนในที่บังคับการโดยใช้ จังหวัดทหารบกค่ายกฤษสีวะรา จ.สกลนคร
เป็นสถานพยาบาลฉุกเฉิน เพื่อให้บุคลากร
ในหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไข
ได้ร่วมประสานการปฎิบัติอย่างใกล้ชิด สร้างความคุ้นเคย
เมื่อเกิดเหตุการณ์จริง จะสามารถลดความรุนแรงของภัยได้
อันเป็นการปฎิบัติโดยยึดแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดใหญ่ของโรค
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และไข้หวัดนกจังหวัดสกลนครเป็นหลัก

ภายหลังเสร็จสิ้นการซ้อมแผน นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้เป็นประธานในการสรุปผลการซ้อมแผนโดยได้มอบ
แนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับระดับและระยะการระบาดขององค์การอนามัยโลก
โดยกำหนดบทบาทหน้าที่เป็น 8 ภารกิจหลัก ได้แก่ การประสานสั่งการ
การเตรียมพร้อมด้านปศุสัตว์ การเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุข
การสื่อสารประชาสัมพันธ์ การคมนาคม ขนส่ง เดินทางและการข้ามแดน
การรักษาความมั่นคงและบรรเทาทุกข์
ความร่วมมือพหุพาคีและความร่วมมือระหว่างประเทศ
และการรักษาความต่อเนื่องของบริการสาธารณะและธุรกิจ

อย่าง ไรก็ตาม
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างไปบ้างจากที่ได้จัดทำไว้
หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมได้เมื่อเกิดสถานการณ์จริง

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000060871

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ชาวบ้านเก็บเห็ดป่าขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

สกลนคร - ชาวบ้านจังหวัดสกลนคร เข้าป่าภูพานเก็บเห็ดมาวางขายริมถนน
เป็นรายได้เสริมระหว่างรอผลผลิตทางการเกษตร สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ


ที่ริมถนนสายสกลนคร-กาฬสินธ์ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จังหวัดสกลนคร
ชาวบ้านต่างพากันนำเห็ดป่าที่เก็บมาจากป่าภูพานมาวางบนเพิงเล็กๆ
ที่สร้างไว้ เพื่อขายเห็ดให้กับประชาชนที่ขับรถผ่านไปผ่านมา
ได้แวะเลือกซื้อกลับไปปรุงเป็นอาหารรับประทาน
โดยเห็ดป่าที่มีวางขายก็จะมีทั้ง เห็ดระโงก เห็ดดิน เห็ดผึ้ง เป็นต้น

เห็ดที่ได้รับความนิยมและมีผู้ซื้อกลับไปรับประทาน
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเห็ดระโงก และเห็ดดิน เนื่องจากเห็ดชนิดนี้
เมื่อนำไปปรุงเป็นอาหารประเภทผัด
และแกงเห็ดจะให้รสชาติที่ดีกว่าเห็ดชนิดอื่น
โดยราคาก็จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 170-200 บาท
ซึ่งพ่อค้า-แม่ค้าจะแบ่งเป็นกอง ในราคากอง ละ 50 บาท โดยวันหนึ่งๆ
พ่อค้าแม่ค้าเห็ดเหล่านี้มีรายได้จากการขายเห็ดข้างทาง วันละประมาณ
500-1,000 บาท เลยทีเดียว

นางแดง บึงสุวรรณ อายุ 46 ปี
หนึ่งในแม่ค้าที่นำเห็ดมาวางขายริมถนน ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า
ตนเองมีอาชีพทำนา ซึ่งช่วงนี้ก็ยังไม่ได้ทำอะไร
เนื่องจากเป็นช่วงที่รอดูแลและเก็บเกี่ยวผลผลิต
ก็เลยตัดสินใจร่วมกับเพื่อนบ้านคนอื่นๆ
พาเข้าป่าภูพานออกหาของป่ามาขายเพราะไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว
และช่วงนี้เนื่องจากเป็นฤดูฝนระหว่างเดือน พฤษภาคม - มิถุนายน ของทุกปี
ก็จะมีเห็ดป่าโผล่จากพื้นดินขึ้นมาหลากหลายชนิด จึงพากันเก็บมารับประทาน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเห็ดมีจำนวนมากจึงแบ่งมาวางขายอย่างที่เห็ด
โดยเห็ดที่ตนจะเก็บมารับประทานและขายนั้น
ตนจะเลือกเก็บเอาแต่เห็ดที่คนเฒ่าคนแก่ สอนให้เก็บมาแต่ดั้งแต่เดิม
อาทิเห็ดระโงก, เห็ดดิน เห็ดผึ้ง เป็นต้น ซึ่งในวันหนึ่งๆ
หากจะเก็บเห็ดมาขาย ก็ต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด
เพื่อให้ถึงป่าเห็ดก่อนสว่าง เนื่องจากหากถึงช่วงสายเห็ดก็จะบาน เหี่ยว
และตายก่อน ไม่สามารถนำมารับประทานหรือขายได้ และก็จะใช้เวลาประมาณ 2-3
ชั่วโมง จากนั้นจึงนำเห็ดที่หามาได้ แบ่งเป็นกองๆ เพื่อจำหน่าย

นางแดง บอกว่าจะต้องตื่นออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5
และบางครั้งจะต้องไปหาเห็ดที่ป่าไม้ซึ่งอยู่ไกลออกไปอีกก็ต้องตื่นตั้งแต่ตี
4 และกว่าจะมาถึงเพิงและวางขายได้ก็ประมาณ 11.00 น.
และวันหนึ่งๆก็จะขายได้ตกประมาณวันละ 500-1,000 บาท ซึ่งนางแดง
บอกว่าเป็นรายได้ที่ค่อนข้างดี เพราะตนเองก็ไม่ได้ลงทุนอะไร ลงทุนแต่แรง
และหากเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ถือว่ายังขายได้เป็นปกติ
ไม่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะราคาขายก็ยังคงเท่าเดิม
และลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นหน้าเก่าที่นิยมบริโภคเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว
โดยรายได้เหล่านี้ก็จะถูกนำไปเป็นค้ากับข้าวและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ในยามที่ครอบครัวรอฤดูกาลเพาะปลูกใหม่

ผู้ว่าฯ สกลลั่นเร่งแก้ปัญหาความยากจนทั้งเพิ่มผลผลิตเกษตร-หนุนอาชีพเสริม

สกลนคร - ผู้ว่าฯ
เมืองสกลชี้ปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งแก้คือปัญหาความยากจน
โดยจะมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันจะเร่งขจัดปัญหาสังคมโดยเฉพาะปัญหายาเสพติด เด็กติดเกม
และแหล่งอโคจรยามค่ำคืน


นายสมบัติ ตรีวัฒสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
เปิดเผยถึงปัญหาในจังหวัดสกลนคร ที่ทางจังหวัดจะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
มีทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำ ปัญหายาเสพติด ปัญหาสังคมคือ เด็กติดเกม
ดื่มสุรา และปัญหาความยากจน เป็นต้น แต่ที่เป็นปัญหาหลักของจังหวัดสกลนคร
คือ ปัญหาความยากจน โดยปัญหาความยากจนนี้ทางจังหวัด
มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพหลัก และอาชีพเสริม

โดยเฉพาะประชาชนจังหวัดสกลนคร ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร
หากดินในไร่นามีคุณภาพดี ก็จะช่วยให้เกิดผลผลิตที่ดีด้วย
ด้วยเหตุนี้จึงเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาด้วยการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออก
ตรวจสภาพดินให้กับประชาชนทุกราย
ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และแนะนำวิธีทางการเกษตรอย่างถูกต้อง
พร้อมกับส่งเสริมอาชีพรองคือ การผลิตสินค้า โอ-ท็อป ภายในอำเภอพรรณนานิคม

ทั้งนี้จะจัดฝึกหัดให้ประชาชนมีความคิดที่สร้างสรรค์
มีความประณีตในการออกแบบของผลิตภัณฑ์ เพื่อหารายได้เสริมในช่วงที่ว่างงาน
นอกจากนั้นยังต้องเร่งมือแก้ไขปัญหาสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด
ร้านเกม ร้านเหล้า หอพัก และสถานที่บันเทิง

สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้นจะส่งเสริมให้ประชาชนหันมาเล่น
กีฬา จัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ส่วนร้านเหล้าจะต้องมีใบอนุญาต
เจ้าของร้านต้องตรวจบัตรอย่างเข้มงวดห้ามให้นักเรียนอายุต่ำกว่า 18 ปี
หรือใส่ชุดนักเรียน นักศึกษาเข้าซื้อเด็ดขาด
ถ้าเจ้าของร้านไม่ทำตามกฎกติกาก็จะเชิญเจ้าของร้านมาพบและจะตั้งด่านตรวจจับ
ตลอดเวลา

ปัญหาร้านเกมในจังหวัดสกลนคร มีทั้งหมดกว่า 500 แห่งในทุกๆอำเภอ
ก็จะเร่งให้ทางโรงเรียนออกบัตรนักเรียน
เพื่อให้ร้านเกมตรวจสอบและจัดตั้งระบบออนไลน์ไม่ให้เล่นเกิน 3 ชั่วโมง/คน
และห้ามให้เด็กเล่นเกมในเวลาเรียน

ขณะที่ปัญหาหอพักในจังหวัดสกลนครมีหอพักมากกว่า 700 แห่ง
ส่วนหอพักจะต้องแยกหญิง-ชาย แต่ถ้าพบตึกหญิง-ตึกชายอยู่ด้วยกัน
จะยึดใบอนุญาตและดำเนินการตามกฎหมายทันที

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

โรงรับจำนำเมืองสกลคึกแห่จำนำหาเงินใช้เปิดเทอม

สกลนคร - โรงรับจำนำสกลนครคึกคัก ประชาชนแห่นำของมีค่ามาจำนำ
นำเงินไปใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม โดยมีเงินจ่ายออกไม่ต่ำกว่าวันละ 2 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในสถานธนานุบาล
หรือโรงรับจำนำของเทศบาลเมืองสกลนคร
ก่อนช่วงการเปิดภาคเรียนว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
มีบรรดาผู้ปกครองแห่นำของมีค่ามาจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายซื้อชุดนักเรียน
อุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลานในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนที่สถานการศึกษาต่างๆ
ในพื้นที่จังหวัดสกลนครจะเปิดภาคเรียนในวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 นี้
โดยสิ่งของมีค่าส่วนใหญ่ที่ประชาชนนำมาจำนำ มากที่สุด คือ ทองคำรูปพรรณ
เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นทีวี เครื่องเสียงต่างๆ เครื่องประดับที่มีค่า เช่น
นาฬิกาโรเล็กซ์ อุปกรณ์ทางการเกษตร เครื่องมือทางการช่าง เป็นต้น
โดยในช่วงนี้จะมีบรรดาผู้ปกครองเข้าไปใช้บริการภายในสถานธนานุบาลของเทศบาลฯ
ไม่ต่ำกว่าวันละ 200 คน และมีเงินที่จ่ายออกไปในแต่ละวัน ไม่ต่ำกว่า 2
ล้านบาท

ด้าน นายประเสริฐ แน่นหนา ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองสกลนคร
กล่าวว่า สำหรับมาตรการในการเตรียมเงินเพื่อรองรับประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการยัง
สถานธนานุบาลของเทศบาลในช่วงนี้ก่อนเปิดภาคเรียน
ซึ่งคาดว่าประชาชนโดยเฉพาะบรรดาผู้ปกครองจะเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก
และจะนำทรัพย์สินเข้ามาจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้า
ชุดนักเรียนให้แก่บุตรหลาน

ดัง นั้น
เพื่อเป็นการช่วยเหลือและรองรับความต้องการของประชาชนทางเทศบาลได้เตรียม
เงินสำรองให้กับสถานธนานุบาล เป็นจำนวนเงินกว่า 50 ล้านบาท
เพื่อรองรับกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการใช้จ่ายเงินในช่วงนี้
ซี่งตนมั่นใจว่าเงินสำรองกว่า 50 ล้านบาทที่ทางเทศบาลได้เตรียมไว้นั้น
น่าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ชาวนาสกลฯ เอาฤกษ์วันพืชมงคลทำนา

สกลนคร - ชาวนาเมืองสกล ถือเอาฤกษ์ทำนาในวันพืชมงคล มีทั้งไถนาเตรียมดิน
เพื่อความเป็นสิริมงคล และหวังได้ผลผลิตเป็นกอบเป็นกำ
จำหน่ายได้ราคาดีมีกำไร

ที่บ้านโคกคอน ตำบลโคกสี อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
ชาวนาถือเอาฤกษ์ไถนาในวันพืชมงคล เนื่องจากวันพืชมงคล หรือวันแรกนาขวัญ
ซึ่งมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตชาวไทยที่เป็นสังคมเกษตรกรรม
ได้ถือเอาฤกษ์วันนี้ลงมือทำนา มีทั้งไถนาและหว่านข้าว ทั้งนี้
ที่นอกจากจะยึดถือตามประเพณีเดิม

ทั้งนี้ เพื่อบูชาพระแม่โพสพ
ผู้ทำหน้าที่ปกปักรักษาข้าวในนาให้มีความอุดมสมบูรณ์
ตามความเชื่อที่สืบสานมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว
ยังหวังให้ต้นข้าวเจริญงอกงาม ได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย เป็นกอบเป็นกำ
และจำหน่ายได้ราคาดีมีกำไรอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ที่หลังจากพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
(วันไถหว่าน) ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกรุงเทพมหานครเสร็จสิ้นแล้ว
หลายหมู่บ้านที่ จ.สกลนคร ก็จะได้ประกอบพิธีทำบุญหมู่บ้าน
เพื่อความสิริมงคล มีการเสี่ยงทายฟ้าฝน และจัดงานบุญบั้งไฟ
เพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพญาแถนฟ้าเทวดาแห่งฝน และอนุรักษ์
ขนบธรรมเนียม ประเพณีไทยที่มีมาแต่โบราณ
ก่อนที่จะลงมือทำนาในฤดูเพาะปลูกข้าวนาปี

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000052271

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ชาวสกลฯ จุดเทียนชัยถวายพระพรในหลวง-พระราชินี

สกลนคร-พสกนิกรชาวสกลนครพร้อมใจจุด เทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เนื่องในวันฉัตรมงคล

เมื่อเวลา 19.19 น.คืนที่ผ่านมา (5 พ.ค.)
ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสกลนคร (หลังเก่า) นายพิทยา สุนทรวิภาต
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้นำหัวหน้าส่วนราชการทุกหมู่เหล่า ทหาร
ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า
ประชาชนชาวจังหวัดสกลนคร ร่วมกันประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะ
และจุดเทียนชัยถวายพระพร
เพื่อแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันฉัตรมงคล 5 พฤษภาคม
2552

จากนั้นนายพิทยา สุนทรวิภาต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
ได้จุดเทียนชัยส่งต่อให้กับพสกนิกรเพื่อร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล
ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย

พร้อมกันนั้นได้ร่วมกันกล่าวคำถวายราชสดุดีต่อเบื้องพระบรมฉายา
ลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
และประกาศจะร่วมใจกันสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมืองเพื่อให้เกิดความสงบสุข
จากนั้นได้ร่วมกันเปล่งเสียงไชโย และทรงพระเจริญพร้อมกัน


ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050484

"อ.พังโคน" จัดงานบุญบั้งไฟสืบสานวัฒนธรรมประเพณี

สกลนคร - อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ
สืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดแต่บรรพบุรุษ
เผยความเชื่อท้องถิ่นหากหมู่บ้านใดไม่จัดงานบั้งไฟ อาจเกิด ภัยพิบัติ
ในชุมชน

วันนี้ (5 พ.ค.) ที่อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ได้จัดงานประเพณี
บุญบั้งไฟขึ้น โดยสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
เป็นประธานเปิดงาน

นายสุรพล นิติกิจไพบูลย์
นายกเทศมนตรีตำบลพังโคนได้กล่าวรายงานถึงความเป็นมา
และวัตถุประสงค์ของการจัดงาน การจัดงานบุญบั้งไฟตำบลพังโคนว่าทาง
ประชาชนอำเภอพังโคน ทั้ง 5 ตำบล
ได้ตกแต่งบั้งไฟและขบวนแห่เข้าประกวดแข่งขันกันอย่างคึกคัก
ซึ่งแต่ละขบวนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ย้อนยุค อย่างสวยงาม
ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน
ท่ามกลางความสนใจของผู้ชมซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
แต่ละขบวนประดับประดาบั้งไฟกันอย่างสุดฝีมือ

พร้อมทั้งมีผู้แต่งกายเป็นท้าวผาแดง และ นางไอ่คำนั่ง
ประจำขบวนแห่บั้งไฟทุกขบวนสวยงามไปอีกรูปแบบหนึ่ง
เมื่อขบวนการแสดงฟ้อนรำประกอบดนตรีพื้นเมืองของท้องถิ่น
ของแต่ละหมู่บ้านเคลื่อนผ่านชุมชน ก็ได้รับความสนใจจากประชาชน ออกมา
ร่วมงานตลอดเส้นทางที่ขบวนผ่านจนถึงวัด และร่วมแรงร่วมใจกัน
จัดเวทีประกวดฟ้อนรำเซิ้งบั้งไฟ
โดยได้รับความสนใจจากทุกหมู่บ้านส่งตัวแทนผู้แสดงเข้าร่วมประกวดประชันขัน
แข่ง ด้วยลีลาท่าทางที่สวยสดงดงาม
เป็นที่สนุกสนานต่อผู้มาร่วมงานอย่างคึกคักบุญบั้งไฟ

นับเป็นประเพณีความเชื่อที่สำคัญในคนอีสาน นิยมทำกันในเดือน 6
ของทุกปี โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ ได้แก่ จุดมุ่งหมายในการขอฝน
ชาวบ้านในภาคอีสาน ถือว่าบุญบั้งไฟเป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญมาก
เพราะเชื่อว่าหากหมู่บ้านใดไม่จัดงานบั้งไฟก็อาจก่อให้เกิด ภัยพิบัติ
เช่น โรคภัยไข้เจ็บ หรือทุพภิกขภัยแก่ชุมชนได้
ในขณะที่ช่วงจัดงานนี้เป็นช่วงที่ ชาวบ้านมีงานต้องทำมาก
เนื่องจากเป็นฤดู ของการทำนาปี

ฉะนั้น ที่ประชุมผู้ใหญ่บ้าน จึงต้องปรึกษาหารือกัน
เพื่อตัดสินใจว่าจะจัดหรือไม่ในปีนั้น หากตัดสินใจว่าจะไม่จัดแล้ว
ก็จำเป็นต้องไปทำพิธีที่ศาลปู่ตาของบ้าน
เพื่อขออนุญาตเลื่อนงานบุญนี้ไปในปีหน้า
การจัดงานและการละเล่นในประเพณีบุญบั้งไฟ
ในวันสุกดิบชาวบ้านจะจัดขบวนแห่บั้งไฟยังศาลปู่ตาของหมู่บ้าน
ทำพิธีเซ่นสรวง มีการจุดบั้งไฟที่ใช้ในการเสี่ยงทาย
เพื่อเสี่ยงทายดูความอุดมสมบูรณ์และความสำเร็จในการทำนาปีนั้น

จากนั้นก็พากันกินเหล้าฟ้อนรำ รอบศาลปู่ตาเป็นที่สนุกสนาน
จากนั้นก็พากันแห่บั้งไฟไปยังสถานที่จัดงาน
หรือหมู่บ้านที่จัดงานบุญบั้งไฟเพื่อจุดแข่งขันประกวดประชันกันต่อไป
ในปัจจุบันบั้งไฟที่ใช้จุดแข่งขัน มีหลากหลายที่นิยมเรียกกัน ได้แก่
บั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน ซึ่งมีขนาดของดินปืนมากน้อย
แตกต่างกันไป ในช่วงที่มีการจุดบั้งไฟนั้นนับเป็นช่วงตื่นเต้นและสนุกสนาน
โดยเฉพาะช่างบั้งไฟจะต้องลุ้นมากกว่าใคร

เพราะ หากบั้งไฟไม่ขึ้นก็จะถูกโยนลงบ่อโคลน
นัยว่าเพื่อเป็นการลงโทษ แต่ปัจจุบันนั้น ไม่ว่าบั้งไฟจะขึ้น
หรือไม่ขึ้นก็จะมีการโยนโคลน เพื่อความสนุกสนานมากกว่า
ว่ากันว่าการทำบั้งไฟนั้นจะต้องมีการศึกษาเรียนรู้
มีครูและมีศิษย์สืบทอดกันมา โดยทั่วไปจะถ่ายทอดต่อกันเป็นคนๆ เท่านั้น
ไม่ใช่คนทั่วไปอยากเรียนก็จะเรียนได้หมด
ครูจะเลือกถ่ายทอดให้ตัวต่อตัวสำหรับศิษย์ที่ครูเห็นว่ามีไหวพริบ
และมีพรสวรรค์ด้านการทำบั้งไฟเท่านั้น

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050205

ผู้ว่าฯสกลนครนำพุทธศาสนิกชนทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล

เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้( 8 พ.ค.) ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
เขตเทศบาลเมืองสกลนคร นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานในพิธี ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป
เนื่องในวันวิสาบูชา
โดยมีพุทธศาสนิกชนพร้อมใจกันนุ่งขาวห่มขาวเข้าร่วมจำนวนมาก วันวิสาขบูชา
ถือว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง
เป็นวันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพาน
ซึ่งตรงกันวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 หรือราวเดือนพฤษภาคม

แต่หากตรงกับปีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน วันวิสาขบูชา
จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 7 หรือราวเดือนมิถุนายน
วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา
เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ
ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง 3 คราว

วันวิสาขบูชา
จึงนับว่าเป็นวันที่มีความสำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนทุกคน
เป็นวันที่มีการทำพิธีพุทธบูชา เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระองค์
ที่มีต่อปวงมนุษย์และสรรพสัตว์อันหาที่สุดมิได้
ซึ่งทางองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ
ได้ประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก

ในช่วงเย็นวันนี้ ที่ลานรวมใจไทสกล
ก็จะมีพุทธศาสนิกชนนับหมื่นเดินทางมาร่วมในพิธีแห่โคมบัวบูชา และทุงโบราณ
ไปถวายเป็นพุทธบูชาที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร

วันวิสาขบูชาร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ในสกลนครหงอย

สกลนคร - บรรยากาศตามร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ในจังหวัดสกลนคร
เงียบเหงาประชาชนส่วนใหญ่หันไปสนใจการซื้อสินค้าตามซุปเปอร์มาเก็ตห่อชุด
สังฆทานเองอ้างราคาถูกกว่า

จากการสำรวจบรรยากาศการจำหน่ายชุดถวายสังฆทาน
ตามร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ในวันวิสาขบูชา ที่จังหวัดสกลนคร
เป็นไปด้วยความเงียบเหงาชุดสังฆทานที่หลายร้านเตรียมไว้จำนวนมาก ๆ
ขายไม่ออก โดยผู้ประกอบการระบุน่าจะเป็นจากสภาพเศรษฐกิจ
อีกทั้งในปัจจุบันร้านจำหน่ายเพิ่มจำนวนมากขึ้นทำให้มีการแข่งขันราคากัน
ด้วยการลดราคาตัดหน้าผู้ค้ารายเก่า

นายสุวิทย์ ลิ้มเลิศเจริญวนิชย์
เจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร กล่าวว่า
ในทุก ๆ ปีที่ผ่านมาการจำหน่ายเครื่องถวายสังฆทาน ธูปเทียน
และเครื่องสังฆภัณฑ์ของพระภิกษุสงฆ์ต่าง ๆ ในวันวิสาขบูชาจะขายดีมาก
แต่ในปีนี้แตกต่างจากปีก่อนมาก ยอดขายตกจากปีที่แล้วประมาณ 50
เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากการที่สถานการณ์ในปัจจุบันและสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังตก
ต่ำอยู่ในขณะนี้

จึงทำให้ผู้คนไม่ค่อยออกมาจับจ่ายสินค้าเท่าไหร่นัก
ทำให้สินค้าที่เตรียมไว้โดยเฉพาะชุดสังฆทานขายไม่ได้เลย
นอกจากนี้ยังพบว่าประชาชนที่มาซื้อส่วนใหญ่ก็จะซื้อเฉพาะพลาสติกห่อ
หรือถัง ส่วนสินค้าข้างในก็จะไปเลือกซื้อเองตามซุปเปอร์มาเก็ต

แต่ถ้าขาประจำก็จะรู้ว่าห่อเองไม่ได้รับมาอีกต่อหนึ่งก็จะเลือกซื้อทันที


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2552 14:24 น.